xs
xsm
sm
md
lg

โครงการ “เดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน” แชร์ 5 เคล็ดลับ ส่งเสริมเยาวชนใช้ถนนอย่างปลอดภัยทุกเทศกาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ข้อมูลจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติระบุว่า อุบัติเหตุทางถนนคือเหตุฉุกเฉินที่เกิดแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี สูงสุดเป็นอันดับแรก โดยแต่ละปีมีผู้ประสบเหตุเกือบ 320,000 ราย ซึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุมักเกิดจากเรื่องที่ทุกคนรู้แต่เพิกเฉยไม่ปฏิบัติตาม เช่น การไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่เคารพกฎจราจร เป็นต้น โดยการสำรวจของมูลนิธิไทยโรดส์เมื่อปี 2559 พบข้อมูลที่น่าตกใจว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยของเด็กและวัยรุ่นอยู่ที่เพียง 8 และ 26 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การสร้างจิตสำนึกใช้ถนนอย่างปลอดภัยคือกุญแจสำคัญของการแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน โดยจะต้องปลูกฝังกันตั้งแต่ระดับเยาวชน และอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม

เพื่อให้การรณรงค์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างทั่วประเทศ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย (AIP) ดำเนินโครงการ “เดินทางปลอดภัยไปเรียน” หรือ Chevron Street Wise เพื่อสร้างวัฒนธรรมการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้แก่เยาวชนระดับประถมศึกษามาตั้งแต่ปี 2557 โดยดำเนินงานครอบคลุมโรงเรียนในเขตอำเภอสิงหนคร และอำเภอเมืองสงขลา 11 แห่ง ซึ่งล้วนตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอุบัติเหตุขณะเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับโรงเรียน ด้วยการอบรมหลักสูตรความปลอดภัยทางถนนให้แก่ครูต้นแบบ ซึ่งจะรับผิดชอบในการอบรมเพื่อครู นักเรียน และสมาชิกในชุมชนให้มีความรู้ความเข้าใจในการใช้ถนนอย่างปลอดภัย

คุณหทัยรัตน์ อติชาติ ผู้จัดการฝ่ายนโยบายด้านรัฐกิจและกิจการสัมพันธ์ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่า “โครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียนมุ่งให้ความรู้และสร้างความตระหนักในการใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้แก่เยาวชน อันเป็นแนวทางที่สามารถลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อย่างยั่งยืน ในระยะแรกและระยะที่สองของการดำเนินโครงการ (2557-2560) พบว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการฯ เพิ่มขึ้นจาก 3% เป็น 55% มีการใช้ทางข้ามหรือทางม้าลายเพิ่มขึ้นจาก 29% เป็น 91% มีนักเรียนและผู้ปกครองได้รับประโยชน์แล้วกว่า 10,000 คน นับเป็นความสำเร็จที่น่ายินดียิ่ง”

คุณอรทัย จุลสุวรรณรักษ์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย มูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย กล่าวว่า “วัตถุประสงค์หลักโครงการคือการปกป้องเด็กๆ จากอุบัติเหตุบนท้องถนน ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบให้เหมาะกับพัฒนาการของเด็กระดับประถมศึกษา พร้อมจัดทำคู่มือครูเพื่อให้คุณครูสามารถสอนเรื่องการใช้ถนนอย่างปลอดภัยให้แก่เด็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ผ่านมาโครงการฯ ได้อบรมครูต้นแบบไปแล้ว 37 คน ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ความรู้แก่เด็กๆ และสมาชิกในชุมชนของตนเองต่อไป เพื่อวางรากฐานการสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน”

นอกจากนี้ มูลนิธิ AIP ได้ฝากเคล็ดลับ 5 ข้อจากหลักสูตรของโครงการเดินทางปลอดภัยไปโรงเรียน ที่คุณครูและผู้ปกครองสามารถนำไปสอนนักเรียนหรือลูกหลานเพื่อสร้างพฤติกรรมการเดินทางไปโรงเรียนอย่างปลอดภัยในทุกเทศกาล ดังต่อไปนี้

1. จำให้มั่น ป้ายจราจร สอนให้เด็กๆ เข้าใจความหมายของเครื่องหมายจราจรและเครื่องหมายเส้นบนพื้นทาง พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเครื่องหมายที่พบบ่อยในละแวกใกล้เคียงโรงเรียนหรือระหว่างทางจากบ้านมาโรงเรียน

2. หมวกนิรภัย ไม่ใส่ไม่ได้ สอนให้เด็กๆ เห็นความจำเป็นของการสวมใส่หมวกกันน็อก ไม่ว่าจะเป็นคนขี่หรือคนซ้อนทั้งจักรยานและจักรยานยนต์ เพราะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บที่ศีรษะหากเกิดอุบัติเหตุเมื่อสวมอย่างถูกต้อง โดยหมวกควรพอดีกับศีรษะ ไม่ขยับไปมา และควรใส่สายรัดหมวกที่บริเวณใต้คางให้แน่นพอเหมาะ

3. ตรวจความปลอดภัยก่อนปั่น ก่อนขี่จักรยานควรตรวจสภาพความปลอดภัยเพื่อให้มั่นใจว่ารถทำงานปกติ เช่น รถต้องหยุดทันทีเมื่อกดเบรกมือ กระดิ่งเสียงดังได้ยินชัดเจน โซ่อยู่ในเฟืองโซ่ ไม่หลุด ไม่ติด ยางต้องไม่สึกหรือเป็นรอยฉีกขาด นอตล้อขันแน่นหนา ล้อไม่คด บันไดทั้งสองข้างอยู่ในสภาพดีและหมุนได้อิสระไม่ติดขัด เป็นต้น

4. คาดเข็มขัดนิรภัยเสมอ เมื่อนั่งรถยนต์ต้องจำให้ขึ้นใจว่า “ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย” เสมอ ไม่ว่าจะนั่งตอนหน้าหรือตอนหลัง ซึ่งการคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกวิธีนั้นต้องดูว่า สายเข็มขัดไม่บิด, เข็มขัดส่วนที่คาดผ่านหน้าตักควรอยู่เหนือสะโพก ไม่ใช่เหนือท้อง ส่วนที่พาดไหล่ต้องคาดเฉียงผ่านลำตัวและไหล่ ไม่สัมผัสใบหน้าลำคอ, เข็มขัดต้องแน่นพอดีและเสียบอยู่ในส่วนหัวเข็มขัดอย่างมั่นคง

5. รอรถจอดสนิทก่อนลง ทุกครั้งที่เดินทางด้วยยานพาหนะสาธารณะ เช่น รถประจำทาง รถทัวร์ หรือรถไฟ ต้องรอจนกว่ารถจอดสนิทจึงขึ้นหรือลง โดยรอให้ผู้โดยสารบนรถลงจากรถหมดก่อนจึงค่อยขึ้นรถ เมื่อก้าวขึ้นต้องระวังช่องว่างระหว่างยานพาหนะกับขอบทางหรือขอบชานชาลา เมื่อลงจากรถให้เดินออกห่างจากขอบทางหรือขอบชานชาลาก่อนรถประจำทางหรือรถไฟจะเคลื่อนออก


กำลังโหลดความคิดเห็น