โอน 4 สนามบินภูมิภาคให้ ทอท.ไม่ง่าย เผย กม.เดินอากาศระบุ ทอท.ต้องมีใบรับรองสนามบินนั้นๆ ก่อน ขณะที่มีขั้นตอนตรวจสอบเพื่อออกใบรับรองใช้เวลา ด้านคมนาคมเบรก ทอท.เก็บค่าบริการแพง แนะกำหนดตามขนาดของสนามบิน เน้นบริการสังคมมากกว่าแสวงหากำไร
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการโอนท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานสกลนคร ท่าอากาศยานตาก และท่าอากาศยานชุมพร ไปให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. บริหารจัดการนั้น ล่าสุดกฤษฎีกาได้มีหนังสือตอบกลับแล้วว่า ประเด็นกฎหมายการโอนสามารถทำได้ ซึ่งจะให้ ทอท.และทย.สรุปรายละเอียดประชุมร่วมกัน เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)
โดยหลักในการให้ ทอท.เข้าบริหาร 4 สนามบินแทน ทย.นั้น ทอท.จะต้องขอใช้ที่ดินจากเจ้าของซึ่งมีทั้งกรมธนารักษ์ กรมป่าไม้ กองทัพบก กองทัพอากาศ ส่วนทรัพย์สิน อาคารสิ่งปลูกสร้าง เช่น อาคารผู้โดยสาร รันเวย์ของสนามบินแต่ละแห่งที่ใช้งบประมาณรัฐลงทุนนั้นที่จะต้องมีการส่งมอบให้ ทอท.ใช้ประโยชน์ต่อ ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณาอีกว่า ทอท.จะต้องชำระค่าทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ คืนรัฐอย่างไร ซึ่งจะต้องประเมินมูลค่าทรัพย์สินให้ชัดเจน
โดยหลังจาก ทอท.รับสิทธิ์การบริหารสนามบินทั้ง 4 แห่ง แล้ว คาดว่า ทอท.จะใช้รูปแบบการบริหารเหมือนกับอีก 6 แห่งที่ ทอท.บริหารอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งจะมีการเก็บค่าบริการต่างๆ ค่าธรรมเนียม การขึ้น-ลงอากาศยาน จัดเก็บอากาศยาน (Landing/Parking Fee) ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC) จะเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ ทย.จัดเก็บ PSC ผู้โดยสารเส้นทางในประเทศ 50 บาท ระหว่างประเทศ 400 บาท ขณะที่ ทอท.จัดเก็บ 100 บาท, 700 บาท
ทั้งนี้ ทอท.สามารถกำหนดอัตราพิเศษได้เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดของสนามบินได้ ไม่จำเป็นต้องเก็บเท่ากัน สนามบินภูมิภาคที่มีขนาดเล็กการบริหารยังคงเน้นบริการเพื่อสังคมมากกว่าทำกำไร แต่หาก ทอท.เก็บค่าบริการเพิ่มขึ้นจะต้องมีการชี้วัด เช่น มีบริการเพิ่มขึ้นจากเดิมอย่างไร ความพึงพอใจของสายการบิน ผู้ใช้บริการ ผู้โดยสาร เป็นอย่างไร ซึ่งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) จะช่วยตรวจสอบ
“การให้ ทอท.บริหาร สนามบินภูมิภาค 4 แห่งนี้เพราะ ทอท.ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้บริหารสนามบินมืออาชีพ ในขณะเดียวกัน ทอท.มีสนามบินที่ทำรายได้มหาศาลอยู่ด้วย ดังนั้น ทอท.สามารถนำรายได้จากสนามบินใหญ่มาช่วยดูแล สนามบินที่มีขนาดเล็กได้ ขณะที่ยังเป็นการช่วยลดภาระภาครัฐลงด้วย”
รายงานข่าวแจ้งว่า กฤษฎีกาให้ความเห็นว่า สามารถมอบความรับผิดชอบการบริหารสนามบิน 4 แห่งให้ ทอท.ได้ ซึ่งยังมีประเด็นที่จะต้องตีความให้ชัดเจนและตรงกัน เนื่องจากสามารถมองได้ว่าการมอบความรับผิดชอบให้ ทอท.บริหารสนามบิน อาจจะยังถือว่าสนามบินยังเป็นของ ทย.อยู่ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดเงื่อนไข ระยะเวลา รวมถึงตัวชี้วัดต่างๆ หรือไม่ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐลงทุนไปนั้นจะต้องมีการตีมูลค่าและพิจารณาว่าทอท.จะชำระคืนในรูปแบบใด
นอกจากนี้ยังมีประเด็นใบรับรองสนามบิน ซึ่ง พ.ร.บ.การเดินอากาศกำหนดให้สนามบินที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ทย.ดำเนินการได้โดยไม่ต้องมีใบรับรอง หรือได้รับยกเว้น โดยมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ จะต้องเป็นไปตามที่ กพท.กำหนดตามมาตรฐาน ICAO ส่วน สนามบินทุกแห่งที่ ทอท.บริหารจะต้องมีใบรับรองดำเนินงาน ดังนั้น หากจะเข้าบริหารสนามบินของ ทย.จะต้องมีใบรับรองสนามบินซึ่งมีขั้นตอนที่ต้องดำเนินการและใช้เวลาพอสมควร