“ดาว” แยกธุรกิจออกจากดาวดูปองท์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์และเข้าถึงผู้บริโภคในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค วางเป้าการดำเนินธุรกิจระดับโลกสู่การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมวัสดุศาสตร์ โดยเริ่มเปิดซื้อขายหุ้น “DOW” ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) แล้ว
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ดาว ประสบความสำเร็จในการแยกธุรกิจออกจากดาวดูปองท์ เป็นบริษัทชั้นนำด้านวัสดุศาสตร์ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจระดับโลกและเป็นผู้นำในธุรกิจหลักที่สำคัญ 3 กลุ่ม คือ กลุ่มบรรจุภัณฑ์ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค ที่จะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่ลูกค้าด้วยนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านเอทิลีน โพรพิลีน และซิลิโคน อีกทั้งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
การกระจายหุ้นสามัญดาวได้เสร็จสมบูรณ์หลังจากปิดตลาด โดยผู้ที่ถือหุ้นสามัญดาวดูปองท์จำนวน 3 หุ้น ได้รับหุ้นสามัญดาวจำนวน 1 หุ้น ซึ่งยึดตามวันปิดสมุดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 นอกจากนี้ ผู้ที่ถือหุ้นดาวดูปองท์ไม่เต็มจำนวนก็จะได้รับเงินสดตามมูลค่าหุ้นดาวเช่นกัน ทั้งนี้ ในวันที่ 2 เมษายน 2562 ได้เริ่มทำการซื้อขายหุ้นสามัญดาวในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ภายใต้ชื่อ “DOW” และจะเข้าร่วมดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (DJIA)
นายจิม ฟิทเทอร์ลิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดาว เปิดเผยว่า การปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้การดำเนินงานดาวมีความคล่องตัวมากขึ้นและมีแบบแผนที่ชัดเจน เพื่อสร้างการเติบโตของผลกำไรในระยะยาวและสร้างมูลค่าให้กับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทีมงานดาวมีส่วนสำคัญที่จะร่วมขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายการเป็นบริษัทด้านวัสดุศาสตร์ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรม การเอาใจใส่ต่อลูกค้า ให้ความสำคัญกับความแตกต่าง และดำเนินงานเพื่อความยั่งยืน เรามีเครื่องมือที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และคำนึงถึงการลงทุนที่เหมาะสม ทั้งหมดนี้เพื่อสร้างการเติบโต มูลค่าผลตอบแทน และมูลค่าผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ใหม่ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ “Dow” (ดาว) ซึ่งดำเนินงานมาอย่างยาวนานและจะยังคงพัฒนาโซลูชั่นในฐานะผู้นำด้านวัสดุศาสตร์ ดาว ได้นำเสนอแบรนด์ไลน์ “Seek Together” (ก้าวไปด้วยกัน) ที่เน้นถึงการสร้างคุณค่าในการทำงานร่วมกันเพื่อส่งมอบนวัตกรรมและโซลูชันให้แก่ลูกค้าและทุกฝ่ายในห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งสื่อถึงแนวทางที่ ดาว มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกกลุ่มเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ สัญลักษณ์ดาว ไดมอนด์ ซึ่งอยู่คู่บริษัทมายาวนานกว่า 120 ปี จะไม่เปลี่ยนแปลงและจะยังคงเป็นองค์ประกอบหลักของแบรนด์ต่อไป
ดาว เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2510 ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 1,000 คน มีโรงงานดำเนินการผลิต 15 โรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่เน้นเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าในตลาดที่มีอัตราเติบโตสูง เช่น บรรจุภัณฑ์ โครงสร้างพื้นฐาน และผลิตภัณฑ์ดูแลผู้บริโภค ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ดาวมีฐานการผลิตทั้งสิ้น 21 แห่งใน 10 ประเทศ และมียอดขายสุทธิจำนวน 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี พ.ศ. 2561
“ตลอดระยะเวลา 52 ปีที่ ดาวได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้สร้างความสำเร็จทางธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทยผ่านการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมและการดำเนินโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนต่างๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน และในวันนี้ ดาว กำลังก้าวสู่บทใหม่ที่พร้อมจะร่วมมือกับลูกค้าของเรา พันธมิตรทางการค้า และทุกภาคส่วน เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ไม่เพียงตอบสนองความต้องการของตลาดแต่ยังช่วยนำพาสังคมของเราไปสู่ความยั่งยืนอีกด้วย” นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าว