“เอสซีจี” จัดทำโครงการเฉลิมราชย์ราชา เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลสมัยที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยจับมือกองทัพบก และเชิญชวนภาคีเครือข่ายจิตอาสาร่วมทำกิจกรรม
วันนี้ (4 เม.ย.) เอสซีจีจัดทำโครงการ “เฉลิมราชย์ราชา” เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลสมัยที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนะชัย องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกิจการสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เอสซีจี, พลโท ธเนศ กาลพฤกษ์ รองเสนาธิการทหารบก ผู้แทนจากกองทัพบกและมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมงาน พร้อมปล่อยคาราวานส่งมอบถังเก็บน้ำชุดแรก
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า เนื่องในมหามงคลสมัยที่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร จะทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามพระราชประเพณี ในวันที่ 4-6 พ.ค.นี้ ทางเอสซีจีขอร่วมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลผ่าน 3 กิจการดังนี้ คือ 1. กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาบรรเทาภัยแล้ง” โดยร่วมกับกองทัพบกจัดคาราวานส่งมอบถังเก็บน้ำขนาด 2 พันลิตร จำนวน 1 พันใบ มูลค่ารวม 10 ล้านบาท คาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะทยอยส่งมอบให้แก่พื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือแล้วเสร็จเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งระยะเร่งด่วน
2. กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสารักษ์น้ำ” เพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งระยะยาว โดยร่วมกับชุมชนและจิตอาสาสร้างฝายชะลอน้ำ 1 หมื่นแห่ง ปลูกต้นไม้ 1หมื่นต้น สร้างสระพวงเชิงเขา และระบบแก้มลิงในพื้นที่ราบเพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้เพื่อการเกษตร รวมทั้งร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งในพื้นที่ชุมชนเป้าหมายภัยแล้งซ้ำซาก 18 จังหวัด เช่น ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด
3. กิจกรรม “เฉลิมราชย์ราชา จิตอาสาพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั่วไทย” โดยจะปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ให้บริการตามความประสงค์ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง เพื่อให้ผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพดีขึ้นตามความประสงค์ของโรงพยาบาลฯ โดยจะใช้งบประมาณเบื้องต้นโรงพยาบาลฯ ละ 1 ล้านบาท หรือราว 21 ล้านบาท ในการปรับปรุงด้านสุขอนามัย และภูมิทัศน์ เช่น ปรับปรุงห้องที่พักรอพบแพทย์ และห้องสุขา เป็นต้น
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษมกล่าวว่า โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชก่อตั้งขึ้นด้วยความร่วมมือจากรัฐบาลกับพสกนิกรที่บริจาคสมทบทุนสร้างเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี 2520 โดยพระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสกับ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนำความรู้และประสบการณ์ออกมาให้บริการนอกโรงพยาบาลด้วย
พลโท ธเนศกล่าวว่า ในส่วนของกองทัพบกเป็นหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือประชาชนในการแก้ปัญหาภัยต่างๆมาอย่างต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งภัยแล้ง อุทกภัย วาตภัย และอุบัติภัยในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาภัยแล้ง จัดทำโครงการขึ้นมาชัดเจนภายใต้ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง” โดยทำงานร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคในการเติมน้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ที่ผ่านมาทำไปแล้ว 200 ล้านลิตร และร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำ ในการดึงน้ำใต้ดินเข้ามาใช้ ส่วนระยะยาว ร่วมกับมูลนิธิอุทกพัฒน์ และเอสซีจี ทำโครงการแก้มลิง เพื่อเป็นแหล่งเก็บน้ำใช้ในหน้าแล้ง
อย่างไรก็ตาม ทางเอสซีจีขอเชิญชวนภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสาร่วมทำกิจกรรมดังกล่าวเพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล