xs
xsm
sm
md
lg

ห้างเซ็นทรัลยกเครื่องเว็บไซต์ ดันเป้าขายออนไลน์ปีหน้า 1,500 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน 360 - ห้างเซ็นทรัลโหมออมนิแชนเนล ลุยออนไลน์ขนานคู่ออฟไลน์ ทุ่ม 250 ล้านบาทยกเครื่องแพลตฟอร์มเว็บไซต์ใหม่ เป้ารายได้ออนไลน์ปีนี้ 500 ล้านบาท ปีหน้าเป็น 1,500 ล้านบาท



นางสาวณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ห้างเซ็นทรัลมีนโยบายที่จะรุกตลาดทั้งในช่องทางออฟไลน์คือสาขาที่เป็นห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์อย่างเต็มที่ควบคู่กันไป เพื่อให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในออมนิแชนเนลของห้างสรรพสินค้าในประเทศไทย ล่าสุดบริษัทฯ จึงได้ลงทุนกว่า 250 ล้านบาทในการปรับโฉมใหม่ของ central.co.th ทั้งหมดที่เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2557 ให้เป็นคอนเซ็ปต์ ‘MY CENTRAL IS NOW’

“เราปรับเพื่อเป็นการรองรับกับพฤติกรรมของประชากรที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรทั้งโลก ตรงกันกับคนไทยมีการใช้อินเทอร์เน็ตมากกว่า 80% และใช้ชีวิตติดอินเทอร์เน็ต โดย 1 ใน 5 ของกิจกรรมยอดนิยมบนโลกออนไลน์ คือ การชอปปิ้ง สอดคล้องกับสถานการณ์อีคอมเมิร์ซของทั้งโลกที่เติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในประเทศไทย ในปี 2561 ที่ผ่านมาได้มีการขยายตัวมากถึง 14% และคาดการณ์ว่าปี 2562 จะเติบโตขึ้น 20%

จากสถิติที่กล่าวมา ทำให้เราเห็นแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจนของช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ

“ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลต้องการผสมผสานความแข็งแกร่งของออฟไลน์เข้ากับกระแสการเติบโตของการค้าออนไลน์ เพื่อมุ่งสู่ความเป็นที่หนึ่งของออมนิแชนเนลห้างสรรพสินค้าไทย โดยมีแกนหลักสำคัญ 3 ประการในการเชื่อมโยงการชอปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ เริ่มจากตัวห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ที่ได้รับความเชื่อถือมายาวนานกว่า 70 ปี จนเมื่อห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้สร้างโซเชียลมีเดียบนแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อเป็นช่องทางในการกระจายข่าวสารของห้างสรรพสินค้าให้ลูกค้ารับทราบ ทำให้มีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มค้าปลีกหลายแพลตฟอร์ม เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไลน์ ยูทูป และทวิตเตอร์

สำหรับเว็บไซต์ central.co.th คือแกนหลักสำคัญของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เปิดตัวตั้งแต่ปี 2014 ถึงวันนี้ ได้ตัดสินใจพลิกโฉมใหม่เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการชอปปิ้งที่เปลี่ยนไป โดยนำจุดเด่นของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ด้านแบรนด์สินค้าชั้นนำครบทุกหมวดสินค้า ทั้งเครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก สินค้าแม่และเด็ก สปอร์ต และแก็ดเจ็ต เสมือนยกห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมาไว้ในหน้าจอ ทั้งยังพิเศษกว่าด้วยการนำเอาแบรนด์สินค้า Exclusive ขายทางออนไลน์เฉพาะที่ central.co.th แห่งเดียวเท่านั้น เช่น สินค้าแบรนด์หรูอย่าง Giorgio Armani (จิออร์จิโอ อาร์มานี), Nespresso (เนสเปรสโซ) และ Delonghi (ดิลองกี้) รวมถึงสินค้า House Brand ระดับท็อปอย่าง Dorothy Perkins (โดโรธี เพอร์กินส์), Marks & Spencer (มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์), Minimono (มินิโมโนะ) และ Sanrio (ซานริโอ) เป็นต้น”

ทั้งนี้ ห้างเซ็นทรัลมีรายได้รวมปีที่แล้ว 42,000 ล้านบาท เติบโต 4% แต่ปี 2562 นี้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 45,000 ล้านบาท เติบโต 6% ซึ่งถือว่ามากกว่าเกณฑ์ค้าปลีกทั่วโลก โดยตั้งเป้ารายได้ในส่วนของออนไลน์ไว้ที่ 500 ล้านบาท เติบโต 111% หรือมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 4% จากปีที่แล้วที่ทำได้ 250 ล้านบาท และปี 2563 ตั้งเป้าหมายรายได้ออนไลน์ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 150% สัดส่วนรายได้จากออนไลน์ประมาณ 7%

ระยะยาวตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากออนไลน์ไว้ดังนี้ ปี 2564 สัดส่วนประมาณ 10% ปี 2565 สัดส่วนประมาณ 12% และปี 2566 สัดส่วนประมาณ 15% และจะมีรายได้จากออนไลน์ประมาณ 10,000 ล้านบาท ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 สูงสุดมากกว่าช่องทางที่เป็นสาขาออฟไลน์ จากปัจจุบันสาขาชิดลมมีรายได้สูงสุดอันดับ 1 ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี

นายสเตฟาน จูเบิร์ท ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายออนไลน์และออมนิแชนเนลซีอาร์เอ็ม บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า การลงทุน 250 ล้านบาทในปีนี้ แยกเป็นการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ 55% และเป็นงบด้านการตลาดออนไลน์ 45%

จากการเก็บข้อมูลของบริษัทฯ พบว่า ในช่องทางออนไลน์ปีที่แล้ว (2561) สินค้าที่ขายดียอดนิยม 5 อันดับ คือ ความงาม 37%, สินค้าในครัวเรือน 24.2%, ด้านท่องเที่ยว 8.1%, สินค้าแม่และเด็ก และของเล่น 7.7% และสินค้าผู้ชาย 7.5% ขณะที่กลุ่มสินค้าที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ นาฬิกา โดยเฉพาะแบรนด์คาสิโอ

โดยกลุ่มลูกค้าแยกเป็น ผู้ชาย 32% และผู้หญิง 68% แบ่งตามพื้นที่เป็นกรุงเทพฯ 45% ปริมณฑล 15% และต่างจังหวัด 40% อายุที่ซื้อมากเฉลี่ยที่ 20-40 ปี โดยลูกค้าซื้อผ่านมือถือ 70% ซื้อผ่านคอมพิวเตอร์ 24% และซื้อผ่านแท็บเล็ต 6% การชำระเงินแยกเป็น ผ่านบัตรเครดิต 76% ผ่านเก็บเงินปลายทาง 18% ผ่านการจ่ายตามจุดบริการต่างๆ 4% และผ่านการหักแต้มสะสมหรือเบิร์นพอยต์ 2%


ปริมาณลูกค้าออนไลน์ของเซ็นทรัลปีที่แล้วมีประมาณ 43,000 ราย แต่มียอดการสั่งซื้อต่อบิลประมาณ 36,387 บาท ซึ่งมากกว่าช่องทางออฟไลน์ถึง 3 เท่า ส่วนปริมาณลูกค้าที่มาซื้อในห้างเซ็นทรัลมีประมาณ 2.5 ล้านราย มีการใช้จ่ายประมาณ 12,524 บาทต่อบิล



กำลังโหลดความคิดเห็น