xs
xsm
sm
md
lg

จ่อขายซองประมูลพัฒนาแปลง A ผุดสมาร์ทซิตี้ติด “สถานีกลางบางซื่อ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ร.ฟ.ท.เตรียมเปิดขายซองชิงสัมปทานพัฒนาที่ดินแปลง A มูลค่า 1.1 หมื่นล้านติดสถานกลางบางซื่อ บูมทำเลทองศูนย์กลางคมนาคมใหญ่ของประเทศ เร่งเปิดเฟสแรกปี 64 รองรับสายสีแดง “วรวุฒิ” เผยทางคู่เฟสแรก 7 เส้นทางเสร็จปี 66 พลิกโฉมระบบรางครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปี

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 วันคาดว่าจะเปิดประมูลขายเอกสารประกวดราคาโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์บริเวณสถานีกลางบางซื่อ แปลง A เปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุน (PPP) หลังจากที่ได้มีการนำร่างประกาศเชิญชวน(TOR) ผู้ยื่นข้อเสนอร่วมลงทุน รับฟังความเห็นเมื่อวันที่ 18-22 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งตามแผนจะลงนามสัญญาช่วงปลายปี 2562 เพื่อเริ่มก่อสร้างช่วงต้นปี 2563

พื้นที่แปลง A เป็นโครงการนำร่องการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในศูนย์คมนาคมพหลโยธิน มีเนื้อที่ประมาณ 32 ไร่ มูลค่าลงทุน 11,721 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี กำหนดระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 4 ปี ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคเอกชนและนักลงทุนค่อนข้างมากเนื่องจากเป็นการพัฒนามิกซ์ยูส ทั้ง ร้านค้า โรงแรม และสำนักงาน และอยู่ติดสถานีกลางบางซื่อ ที่มีรถไฟสายสีแดง รถไฟทางไกล รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา

ทั้งนี้ เอกชนจะทยอยพัฒนาในส่วนที่ไม่ติดเรื่อง EIA และเปิดให้บริการเฟสแรกในปี 2564 รองรับการเปิดเดินรถสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ และเปิดให้บริการเต็มพื้นที่ในปี 2566

สำหรับรูปแบบโครงการเป็นการร่วมลงทุน BOT (สร้าง-บริหาร-โอน) โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด และเมื่อสัญญาสิ้นสุดต้องโอนทรัพย์สินให้แก่ ร.ฟ.ท. โดยพัฒนาพื้นที่แปลง A เพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการเดินทางโดยระบบรางของสถานีกลางบางซื่อในรูปแบบ TOD โดยนำแนวคิดเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็น “ศูนย์กลางธุรกิจสมัยใหม่ครบวงจร (Smart Business Complex)

***เร่งทางคู่เฟสแรก 7 เส้นทางเสร็จปี 66 พลิกโฉมระบบรางครั้งใหญ่ในรอบ 60 ปี

นายวรวุฒิกล่าวว่า วานนี้ (26 มี.ค.) เป็นวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ ครบรอบ 122 ปี ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้จัดงานเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่พระองค์ได้พระราชทานกิจการรถไฟให้แก่ชาวไทย ซึ่ง ร.ฟ.ท.ได้เร่งรัดการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะแรก 7 เส้นทาง ระยะทาง 993 กม. โดยจะทยอยแล้วเสร็จและเปิดใช้ในปี 2562 จำนวน 2 เส้นทาง และปลายปี 2566 จะเสร็จทั้งหมด จะเป็นการพลิกฟื้นระบบขนส่งทางรางครั้งใหญ่ในรอบกว่า 60 ปี ซึ่งจะมีการจัดหาหัวรถจักรและขบวนรถเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความถี่และทำการตลาดในการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า เนื่องจากรถไฟจะวิ่งได้เร็วขึ้นเฉลี่ยเป็น 100-120 กม./ชม. จากปัจจุบันความเร็วเฉลี่ย 60 กม./ชม.

ส่วนทางคู่ระยะที่ 2 จำนวน 9 เส้นทาง ระยะทาง 2,164 กม.นั้น ครม.อนุมัติเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กม. วงเงินรวม 85,345 ล้านบาทแล้ว อยู่ระหว่างรอประกาศ พ.ร.ฎ.เวนคืน ส่วนการจัดทำ TOR จะแล้วเสร็จและเปิดประมูลได้ในเดือน มิ.ย.- ก.ค.นี้ ส่วนอีก 8 เส้นทางนั้น คาดว่าเส้นทาง บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม 355 กม. วงเงิน 6.7 หมื่นล้านบาทมีความพร้อมจะเสนอ ครม.ในเร็วๆ นี้

“การพัฒนาระบบราง โดยเฉพาะรถไฟทางคู่นั้นเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของประเทศในการลดต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งทั้งคนและสินค้า ซึ่ง ร.ฟ.ท.มีแผนในการพัฒนาและจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแผนงานจะยังคงเดินหน้าต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น