ผู้จัดการรายวัน 360 - “บีเจซี” ลุยขยายฐานการผลิตขวดแก้วเพิ่ม เล็งผุดฐานผลิตในซีแอลเอ็มวี คาดสรุปสิ้นปีนี้ เตรียมงบลงทุน 1.5 พันล้านตอบรับตลาดทั้งไทยและทั่วโลกที่ใช้ขวดแก้วเพิ่ม
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือบีเจซี เปิดเผยว่า กลุ่บริษัทบีเจซีมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดแก้วเพิ่มอีก โดยจะพิจารณาลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ในต่างประเทศ มองไปที่กลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ทั้งกัมพูชา ลาว พม่า เพื่อเป็นฐานการผลิตเพิ่มเติม ส่วนในเวียดนามปัจจุบันมีโรงงานผลิตของบริษัทฯ อยู่แล้ว
ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียดความเหมาะสมและการลงทุนทั้งหมดว่าประเทศใดจะเป็นประเทศที่มีความเหมาะสมมากที่สุด และคาดว่าทุกอย่างจะได้ข้อสรุปรายละเอียดที่ชัดเจนภายในสิ้นปี 2562 นี้แน่นอน เนื่องจากในแต่ละประเทศต่างก็มีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านของต้นทุนการผลิต ต้นทุนการส่งออก ความต้องการของตลาดในประเทศนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไร
เบื้องต้นคาดว่าโครงการลงทุนดังกล่าวนี้จะต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาท และมีความต้องการใช้ที่ดินสร้างโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วประมาณ 20-30 ไร่
อย่างไรก็ตาม โรงงานเดิมที่มีอย่นั้นก็ยังคงผลิตต่อเนื่องเต็มกำลังผลิต จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วรวมทั้งในและต่างประเทศทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน คือ ในไทยมีที่บางพลี 1 แห่ง สระบุรี 2 แห่ง และต่างประเทศมีที่เวียดนาม 1 แห่ง และมาเลเซีย 1 แห่ง ซึ่งโรงงานทั้งหมดนี้มีกำลังการผลิตรวมกันประมาณ 4,350 ตันต่อวัน โดยแยกเป็นกำลังการผลิตจากโรงงานในไทยประมาณ 3,400 ตันต่อวัน ส่วนที่เหลือเป็นกำลังการผลิตที่มาจากโรงงานในต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทฯ ถือเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแบบแก้วที่มีกำลังผลิตมากที่สุดและใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งยังไม่ได้นับรวมกำลังการผลิตที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้ด้วย
นายอัศวินกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่บริษัทฯ ต้องลงทุนขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วนี้อีกเนื่องจากว่าแนวโน้มความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดแก้วได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ทั่วโลกหันมาให้ความสำคัญต่อการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อลดปัญหาโลกร้อน ส่งผลให้แนวโน้มการใช้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งจากความนิยมที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารหันมาใช้บรรจุภัณฑ์แบบขวดแก้วกันมากขึ้นทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทยด้วย
จากสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัทฯ เช่นกัน โดยปี 2562 ที่ผ่านมาผลประกอบการด้านยอดขายบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วของบริษัทฯ เติบโตถึง 8% ส่วนบรรจุภัณฑ์แบบกระป๋องกลับมีอัตราการเติบโต 6%
นายวิเชียร รุ่งวัฒนะกิจ รองผู้จัดการใหญ่ธุรกิจสินค้า บริษัท ไทย มาลายา กลาส ในเครือบีเจซี กล่าวถึงด้านแผนการตลาดว่า ในปี 2562 นี้บริษัทฯ จะยังคงมุ่งหน้าในการขยายฐานกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนานวัตกรรมขวดแก้วต่างๆ ออกมาเพื่อตอบสนองและเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างๆ เข้ามาทำตลาด รวมถึงการพัฒนาขวดแก้วนวัตกรรมเข้ามาทำตลาด รวมไปถึงการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมขวดแก้วทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้มากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าผลประกอบการด้านยอดขายในปี 2562 นี้จะมีรายได้รวมเติบโต 8% จากปี 2561 ที่มีรายได้ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยแยกเป็นรายได้จากธุรกิจแอลกอฮอล์ 40% รายได้จากธุรกิจนอนแอลกอฮอล์ 15% และรายได้จากอาหาร 45% ขณะที่บรรจุภัณฑ์ขวดแก้วปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะโต 8% และแบบกระป๋องจะโต 5%