xs
xsm
sm
md
lg

“กกพ.” เปิดรับยื่น “โซลาร์ภาคประชาชน” พ.ค.นี้ คาดเงินสะพัด 4 หมื่นล้านบาทใน 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดตัวโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ให้เจ้าของบ้านและอาคารที่อยู่อาศัยที่ต้องการติดตั้งแผงเซลล์ผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อใช้เอง และที่เหลือขายเข้าระบบได้ นำร่องปีละ 100 เมกะวัตต์ใน 10 ปี เริ่ม พ.ค.นี้ คาดเงินสะพัดปีละ 4 พันล้านบาท

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในการเปิดตัวโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ว่า โครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนการพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี 2018) ที่บรรจุไว้ในแผน 20 ปี (ปี 61-80) ทั้งสิ้น 10,000 เมกะวัตต์ โดยกำหนดรับซื้อนำร่องระยะแรก 10 ปี ปีละ 100 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มรับจดทะเบียนได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป


“รัฐบาลจะได้ออกมาตรการสนับสนุนให้ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์และผู้ประกอบการติดตั้งระบบในประเทศ และสถาบันอาชีวศึกษาให้มีส่วนร่วมในธุรกิจการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบ ที่ในแต่ละปีคาดว่าจะมีการติดตั้งประมาณ 10,000-20,000 ระบบ เป็นมูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท/ปี หรือประมาณ 40,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาโครงการ 10 ปี” นายศิริกล่าว


นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า ขั้นตอนในการดำเนินการ ประกอบด้วย

1. สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) จะเริ่มกระบวนการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์โครงการฯ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2562 โดยประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูลได้ที่ 0-2207-3599 หรือติดตามจากเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ที่ www.erc.or.th และเว็บไซต์ของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายทั้ง 2 แห่ง
2. เปิดรับลงทะเบียนสำหรับผู้สนใจเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ของการไฟฟ้านครหลวงและเว็บไซต์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี 2562
3. ทยอยประกาศรายชื่อผู้ผ่านการพิจารณาโดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562
4. กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ภายในปี 2562

“อยากให้ประชาชนได้มีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย โดยเฉพาะการพิจารณาผลประโยชน์ที่จะได้รับ ซึ่งโครงการฯ ดังกล่าวประชาชนจะต้องมีการลงทุนเพื่อติดตั้งระบบ ดังนั้น ควรต้องคำนึงถึงความคุ้มทุนที่จะเกิดขึ้นกับการลงทุนด้วย ซึ่งความคุ้มค่าการลงทุนจะขึ้นกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นหลัก และอยากให้มีการเปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการ และช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้า เช่น หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมากอยู่แล้ว ระยะเวลาในการคุ้มทุนย่อมเร็วกว่า เป็นต้น” นายเสมอใจกล่าว

นางสาวนฤภัทร อมรโฆษิต เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวถึงหลักเกณฑ์การประกาศรับซื้อไฟฟ้าภายใต้โครงการฯ ประกอบด้วย
1. คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ :
1.1 บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า
1.2 เป็นผู้ที่มีเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าประเภทที่ 1 ตามประกาศอัตราค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย
ไม่เกิน 10 KW ต่อครัวเรือน
2. เป้าหมาย และปริมาณการรับซื้อรวม 100 เมกะวัตต์ :
2.1 พื้นที่การไฟฟ้านครหลวงรวม 30 เมกะวัตต์
2.2 พื้นที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาครวม 70 เมกะวัตต์
3. เงื่อนไขในการพิจารณา และข้อยกเว้น :
การพิจารณาแบบเรียงลำดับก่อนหลังตามความพร้อม (First come First served) โดยจะยึดถือวันและเวลาที่ได้รับแบบคำขอที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ของเอกสารหลักฐานที่กำหนดเป็นสำคัญ
4. ราคารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินในอัตราไม่เกิน 1.68 บาท/หน่วย ระยะเวลารับซื้อ 10 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น