xs
xsm
sm
md
lg

ส.อ.ท.แย้มสมุดปกขาวชู 5 แนวทางพัฒนาอุตสาหกรรม หวังรัฐบาลใหม่ขับเคลื่อน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ส.อ.ท.ทำสมุดปกขาวเพื่อเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในอนาคตที่เตรียมส่งต่อให้กับพรรคการเมือง ชู 5 แนวทางหลักหวังรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งจะเร่งขับเคลื่อนเพื่อยกระดับขีดความสามารถของไทย โล่งอก! พรรคการเมืองชัดเจนมาทางเดียวกันขึ้นค่าแรงตามทักษะฝีมือหนุนรัฐลอยตัวค่าแรง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยในการประชุมสามัญประจำปี 2562 ในหัวข้อ "ทิศทางอุตสาหกรรมไทย SHAPING THAI INDUSTRY 2025" พร้อมเสวนาเรื่อง "ตอบโจทย์อุตสาหกรรมไทย โดย 5 พรรคการเมืองที่ประกอบด้วย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย และอนาคตใหม่ ว่า ส.อ.ท.ได้จัดทำสมุดปกขาว (ไวต์เปเปอร์) ที่เป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทยในอนาคตที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่ที่จะจัดตั้งหลังการเลือกตั้งปี 2562 ขับเคลื่อน 5 แนวทางหลักเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้เทียบชั้นระดับโลกเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง

"เราได้ทำสมุดปกขาวไว้แล้ว และเตรียมมอบให้แก่ 5 พรรคที่เชิญมาครั้งนี้ก่อน แต่มีแก้ไขเล็กน้อยจึงจะจัดส่งเป็นเล่มให้ในภายหลังและรวมถึงพรรคการเมืองอื่นๆ" นายสุพันธุ์กล่าว

สำหรับ 5 แนวทางหรือปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต ได้แก่ 1. สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเห็นว่ารัฐควรจะมีการหารือร่วมกันในเวทีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ให้มากขึ้นอย่างน้อย 2 เดือนครั้งเพื่อการทำงานบูรณาการมากขึ้น เร่งยกระดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ หรือ Ease of Doing Business รวมถึงการตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ 2. เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันอุตสาหกรรมไทย การพัฒนา AI Robotic และ Lean Automation การตั้งกองทุน Innovation Fund และการตั้งศูนย์ Big Data ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมเกษตร (Smart Agro) ซึ่งเห็นว่าการโซนนิ่งพื้นที่ภาคเกษตรเป็นเรื่องสำคัญแต่ที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้า

3. ยกระดับ SMEs และส่งเสริมการใช้สินค้าไทย หรือ Made-in-Thailand โดยเริ่มจากหน่วยงานรัฐในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำเป็น Unseen Product เพื่อโปรโมตสินค้าทั้งในและต่างประเทศ จัดตั้งกองทุน SMEs รวมทั้งส่งเสริมการตลาด ด้วยการจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการขายผ่าน E-Commerce ทุกแพลตฟอร์มทั่วโลก

4. เสริมสร้างธรรมาภิบาลความรับผิดชอบต่อสังคม ด้วยการส่งเสริม SMEs ทำบัญชีเดียว ขอให้รัฐพิจารณาจัดให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น และปฏิรูปบุคลากรภาครัฐ รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาและรักษาสิ่งแวดล้อม
5. ยกระดับทักษะ ความรู้ และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ ด้วยการตั้งศูนย์การศึกษา Life Long Learning และปรับการศึกษาให้เข้ากับภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งผลักดันระบบการจ่ายค่าแรงตามทักษะ (Pay by Skill)


อย่างไรก็ตาม ประเด็นการหาเสียงในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น ส.อ.ท.ก็สบายใจเมื่อพรรคการเมืองหลักๆ ได้ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าจะมีการปรับขึ้นไปตามทักษะฝีมือแรงงานไม่ได้ขึ้นทันที โดยจะเน้นการขึ้นหลังจากที่มีรายได้เพิ่มก่อน ทั้งนี้ ที่ผ่านมายอมรับว่าค่าแรงขั้นต่ำเป็นประเด็นการเมืองมาโดยตลอด แต่ทุกวันนี้ก็จะเห็นว่าอดีตจีนมีแรงงานต่ำแต่เมื่อเศรษฐกิจดีค่าแรงก็สูงขึ้น ดังนั้น ส.อ.ท.เองต้องการเห็นค่าแรงเป็นระบบลอยตัวสะท้อนกลไกความต้องการแรงงานในตลาดและทักษะฝีมือซึ่งในแต่ละอุตสาหกรรมและจังหวัดย่อมต่างกันออกไป
กำลังโหลดความคิดเห็น