xs
xsm
sm
md
lg

“เถ้าแก่น้อย” ชูไอดอลมาร์เกตติ้งสู่โกลบอลแบรนด์ ดึง “F4” เอาใจแฟนไทย-จีน โกยยอดขายหมื่นล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


'เถ้าแก่น้อย' อัดงบ 200 ล้านเพิ่มกำลังผลิตบุกตลาดต่างประเทศเต็มศึก เตรียมยึดตลาดยุโรป หวังยอดขายหมื่นล้านสู่ความเป็นโกลบอลแบรนด์ ล่าสุดดึง 'F4' เอาใจแฟนไทย-จีน มั่นใจดันรายได้ปีนี้โตอีก 10% จาก 5,662 ล้านบาทในปีก่อน

นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู้ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เถ้าแก่น้อยยังคงยึดไอดอลมาร์เกตติ้งในการทำตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดปีนี้ใช้งบการตลาดราว 40 ล้านบาทสำหรับทำตลาดเถ้าแก่น้อย บิ๊กโรล ด้วยการเปิดตัว 4 หนุ่ม F4 ประกอบด้วย ดีแลน หวัง (Dylan Wang) ดาร์เรน เฉิน (Darren Chen) ลีออน เหลียง (Leon Leong) และ ซีซาร์ อู๋ (Caesar Wu) ซูเปอร์สตาร์ระดับเอเชียมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ใหม่เพื่อรุกตลาดซัมเมอร์นี้ และตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นสาหร่ายจากเกาหลี พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมแผนสื่อสารการตลาดแบบ 360 องศาผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และออนกราวนด์

อีกทั้งเถ้าแก่น้อยได้ขยายตลาดไปสู่ประเทศจีนครบรอบ 10 ปีจนได้รับความนิยมอย่างสูง สามารถครองส่วนแบ่งตลาดในอันดับต้นๆ ในตลาดสาหร่ายจีน โดยเถ้าแก่น้อย บิ๊กโรลเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดในประเทศจีนมีสัดส่วนมากกว่า 60% ปีนี้บริษัทจึงมีแผนจัดกิจกรรมการตลาด พร้อมเลือก 4 หนุ่ม F4 ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากแฟนคลับในจีนสูงไม่แพ้เมืองไทย เป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อรุกทำตลาดด้วย

"อนาคตเถ้าแก่น้อยต้องการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับโกลบอลแบรนด์ หรือต้องมีรายได้รวมขณะนั้นไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท และยอดขายจากในประเทศและต่างประเทศจะต้องอยู่ในระดับ 50% เท่าๆ กัน หรือต่างประเทศต้องมีมากกว่า"

นายอิทธิพัทธ์กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทยังพร้อมใช้งบลงทุนอีกกว่า 200 ล้านบาทสำหรับปรับปรุงเครื่องจักร เพิ่มไลน์การผลิตอีก 1 ไลน์ จากปัจจุบันมีอยู่ 2 ไลน์ กำลังการผลิตอยู่ที่ 6,000-7,000 ตัน/ปี หรือสามารถทำรายได้เต็มกำลังที่ 8,000 ล้านบาทต่อปี และหากดำเนินตามแผนที่วางไว้ ในปี 2024 จะมีรายได้ที่ 10,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของบริษัทในปีที่ผ่านมามียอดขาย 5,662 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 10 โดยเติบโตในทุกกลุ่มสินค้าทั้งสาหร่ายทอด อบ ย่าง และเทมปุระ ขณะที่สาหร่ายเถ้าแก่น้อย บิ๊กโรลปัจจุบันมียอดขายรวม 300 ล้านบาท ซึ่งการรุกตลาดต่อเนื่องบริษัทตั้งเป้าที่จะผลักดันให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 500 ล้านบาทภายในระยะเวลา 3 ปี ปัจจุบันเถ้าแก่น้อยมีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 69 จากตลาดรวมสาหร่ายเมืองไทย คาดเมื่อทำกิจกรรมกระตุ้นตลาดจะส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

ส่วนภาพรวมตลาดสาหร่ายในเมืองไทยปี 2561 มีมูลค่าราว 3,032 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 5.2 ประกอบไปด้วย สาหร่ายประเภททอด, อบ, ย่าง และเทมปุระ โดยสาหร่ายประเภทย่างเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุด คือร้อยละ 24.5 มีบิ๊กโรล (Bigroll) สาหร่ายม้วนย่างเป็นผู้ขับเคลื่อนตลาด เพราะมีสัดส่วนมากที่สุดคือเกือบร้อยละ 50 และมีการเติบโตถึงร้อยละ 35 ดังนั้น เถ้าแก่น้อย บิ๊กโรล จึงเป็นหนึ่งในแบรนด์สำคัญที่สร้างการเติบโตให้แก่เถ้าแก่น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น