“คมนาคม” เคาะ กทพ.รับก่อสร้างเสาตอม่อโมโนเรลสายสีน้ำตาลเกือบ 2 พันล้าน ผนวกในงานประมูลทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ (N2) ช่วงแนวทับซ้อนกัน 5.7 กม. ซึ่ง กทพ.จะเปิดประมูล พ.ย.นี้ โดยให้ รฟม.เร่งออกแบบฐานรากให้ทัน โดยใช้คืนค่าก่อสร้างพร้อมดอกเบี้ยภายหลังเมื่อได้เอกชนร่วมทุน PPP สีน้ำตาล
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ระยะทาง 22.1 กม. ว่า ได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อเตรียมแผนในการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล เนื่องจากมีเส้นทางบางส่วนที่ทับซ้อนกับโครงการทางด่วนสายเหนือขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 ช่วงวงแหวนตะวันออก-เกษตรฯ ของ กทพ. และเป็นไปตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาในการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด
ทั้งนี้ จากการศึกษาจะมีการก่อสร้างทางด่วน N2 ก่อน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลจะก่อสร้างประมาณปี 2565 เนื่องจากเป็นระบบฟีดเดอร์ ซึ่งจะต้องรอโครงข่ายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) สายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) เปิดให้บริการก่อนโครงการจึงจะคุ้มค่า
ดังนั้น ที่ประชุมจึงเสนอหลักการโดยให้ กทพ.เป็นผู้ก่อสร้างฐานรากเสาตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงที่ทับซ้อนกับทางด่วน N2 ซึ่งมีระยะทางประมาณ 5.7 กม. โดยเริ่มตั้งแต่สายสีน้ำตาล สถานีที่ 8 (คลองบางบัว) จนถึงสถานีที่ 15 (ประเสริฐมนูกิจ นวมินทร์) คิดเป็นวงเงินค่าก่อสร้างประมาณ 1,470 ล้านบาท โดยให้ กทพ.รวมงานก่อสร้างนี้กับโครงการทางด่วน N2 เพื่อให้ผู้รับเหมารายเดียวกันก่อสร้าง และให้ รฟม.ใช้คืนค่าก่อสร้างพร้อมดอกเบี้ยภายหลัง
“ได้ให้ รฟม.ทำตารางเวลาหรือไทม์ไลน์รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลให้ชัดเจน รวมถึงเร่งออกแบบในส่วนของเสาตอม่อฐานราก ระบบโมโนเรล เพื่อส่งแบบให้ กทพ.ไปประมาณราคาและนำไปรวมกับการประมูลในส่วนของทางด่วน N2 ก่อน ส่วนด้านบนเหนือเสาจะเป็นหน้าที่ของเอกชนที่ได้รับคัดเลือกออกแบบ และจะมีการประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปรายละเอียด จากนั้นจะเสนอ ครม.ขออนุมัติก่อสร้างทางด่วน N2 โดยให้ กทพ.รับงานก่อสร้างเสาตอม่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลไปด้วย โดยให้ รฟม.ชำระเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยภายหลัง ซึ่ง รฟม.จะต้องกำหนดในเงื่อนไขการประมูล PPP สายสีน้ำตาลเพื่อให้เอกชนที่ได้รับคัดเลือกชำระคืนส่วนนี้”
ตามแผน กทพ.จะเปิดประมูลก่อสร้างทางด่วน N2 ในเดือน พ.ย. 2562 เริ่มก่อสร้างในเดือน มิ.ย. 2563 แล้วเสร็จในเดือน พ.ค. 2566 ดังนั้น จึงให้ รฟม.เร่งออกแบบเฉพาะส่วนตอม่อ ในส่วนที่แนวทับซ้อนกับทางด่วน N2 เพื่อให้ทันกับที่ กทพ.จะเปิดประมูลก่อสร้างทางด่วน 2
นอกจากนี้ ยังกำชับให้เร่งดำเนินการในส่วนของรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งแยกเป็น 3 ฉบับ คือ ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ทางด่วน N2 และทางด่วนส่วนต่อเชื่อมถนนวงแหวน โดยต้องการให้อนุมัติพร้อมๆ กันเพื่อไม่ให้กระทบต่อการก่อสร้าง
สำหรับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E–W corridor ด้านตะวันออก วงเงินลงทุน 14,382 ล้านบาท เบื้องต้น กทพ.จะใช้เงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFF และจะต้องรวมเสาตอม่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลอีกเกือบ 1,500 ล้านบาทไปด้วย