ผู้จัดการรายวัน 360 - ซีพีเอฟ “เชสเตอร์” ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ดี ทุ่ม 100 ล้านบาท โหมเปิดใหม่ 20 สาขา เน้นดีลิเวอรี ฟื้นยอดรวมปีนี้โต
นายสถิต สังขนฤบดี ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเชสเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประเมินว่าภาพรวมเศรษฐกิจงของไทยปี 2562 นี้จะดีขึ้น หลังจากช่วงที่ผ่านมายังไม่ค่อยกระเตื้องมากนัก เพราะสังเกตจากหลังจากที่มีการกำหนดวันเลือกตั้งเรียบร้อยแล้วพบว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มมีมากขึ้น โดยดูจากยอดขายในร้านเชสเตอร์เพิ่มมากถึง 10% จากปกติ แม้ว่าจะมีหลายสำนักออกมาวิเคราะห์ว่าจีดีพีของไทยปีนี้คงจะโต 4% ก็ตาม ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วที่เติบโตประมาณ 4.1-4.2%
“ผมมองว่ากำลังซื้อของคนระดับกลางหรือชนชั้นกลาง เริ่มมีการจับจ่ายใช้สอยบ้างแล้ว ปีนี้เราจึงจะเปิดสาขาใหม่มากกว่าปีที่แล้ว อีกทั้งปีที่แล้วเราเจอปัญหาเรื่องทำเลเพราะว่าศูนย์การค้าหลายแห่งชะลอการเปิดตัวสาขาใหม่ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่กระเตื้องด้วย ซึ่งปีที่แล้วผลประกอบการของเราเติบโตเพียง 6% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดว่าจะต้องโต 10%” นายสถิตย์กล่าว
ทั้งนี้ แผนธุรกิจปี 2562 มีแผนที่จะใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาที่เป็นของบริษัทฯ เอง 10 สาขา และสาขาของแฟรนไชส์อีก 10 สาขา เพิ่มจากปีที่แล้วที่มีการขยายสาขารวมประมาณ 14 สาขา จากร้านเชสเตอร์ที่มีการเปิดบริการรวมขณะนี้ 200 สาขาทั่วประเทศ โดยซึ่งสัดส่วนที่เปิดในบิ๊กซี กับเทสโก้โลตัส และปั๊ม ปตท. จะมีมากถึง 75% ส่วนร้านในศูนย์การค้า ลดลงเหลือ 25% เป็นการลดลงจากเดิมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่สัดส่วนของร้านเชสเตอร์ที้ตั้งอยู่ในศูนย์การค้ามากถึง 40% เพราะต้องการกระจายความเสี่ยงหลังจากที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทและคุกคามหรือดิสรับชันการทำธุรกิจมากขึ้น จากความกังวลว่าผู้บริโภคจะเข้ามาเดินศูนย์การค้าหรือห้างสรรพสินค้าน้อยลง สวนทางกับทำเลในบิ๊กซี เทสโก้โลตัส และปั๊ม ปตท.ที่ยังมีการขยายตัวได้เร็วและสามารถเข้าถึงแหล่งชุมชนได้ง่ายด้วย
นอกจากนั้น อีกกลยุทธ์หนึ่งที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น คือ การขยายบริการดีลิเวอรี หรือบริการจัดส่งถึงบ้านที่ทำงาน โดยปัจจุบันดีลิเวอรีมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 15% จากยอดรายได้รวมทั้งหมด ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% จากยอดรายได้รวมภายในช่วง 2 ปีนี้
นายสถิตย์กล่าวต่อว่า จากนี้เชสเตอร์จะมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วยในการพัฒนาอาหาร มีวางแผนที่จะมีการนำเสนอเมนูใหม่เฉลี่ย 2 เมนูทุก 2 เดือน ทั้งที่เป็นอาหารหลักกับอาหารทานเล่น ทั้งไก่ และปลา เมนูล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัว คือ ข้าวไก่ซอสน้ำปลา และเป็นเมนูยอดนิยมอันดับที่ 3 คือ ข้าวไก่ซอสน้ำปลา รองลงมาจากเมนู ข้าวอบไก่ย่าง และข้าวไก่เผ็ด
การออกเมนูอาหารใหม่ให้หลากหลายประมาณ 2 เมนู ทั้งอาหารหลัก และอาหารกินเล่นในทุก 2 เดือน เน้นเมนูเพื่อสุขภาพทั้งไก่และปลา โดยล่าสุดเปิดตัวข้าวไก่ซอสน้ำปลาได้การตอบรับดีมากทำให้ติด 1 ใน 3 ของเมนูที่ขายดีรองจากข้าวอบไก่ย่าง และข้าวไก่เผ็ด รวมทั้งมุ่งขยายช่องทางจำหน่ายเดลิเวอรีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขาย 15% ตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% ใน 2 ปีจากนี้
ขณะที่ตลาดต่างประเทศนั้น นายสถิตย์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา การศึกษาการขยายธุรกิจในตลาดประเทศฟิลิปปินส์ มีโอกาสมากน้อยเท่าใด อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ขยายในประเทศเป็นการขายแฟรนไชส์ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทฯมีแผนจะเปิดเชสเตอร์ในลาวเพิ่มอีก 2 สาขา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อ 3 ปีที่แล้วได้เปิดสสาขาในเวียงจันทน์ 1 สาขา และเข้าไปเปิดในพม่า 1 สาขาเป็นครั้งแรก เนื่องจากเชื่อว่าตลาดในประเทศเหล่านี้มีศักยภาพในการขยายตัว และกำลังซื้อผู้บริโภครายได้ระดับกลางนิยมรับประทานอาหารนอกบ้านด้วย ปีนี้ตั้งเป้าหมายช่วยผลักดันให้ปี 62 มียอดขายเพิ่มจาก 1,700 ล้านบาท เป็น 1,850 ล้านบาท
