เทสโก้ โลตัส ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) ร่วมพัฒนานวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ต่อยอดงานวิจัยจากนักวิชาการสู่สูตรอาหารเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์เทสโก้ เตรียมส่งเมนูคาวหวานพร้อมรับประทาน ดีต่อสุขภาพ มีรสชาติอร่อย และราคาที่เอื้อมถึงได้ จำหน่ายทั่วประเทศ ตอบรับเทรนด์ความต้องการอาหารที่มีคุณค่าตามหลักโภชนาการตรงกับสุขภาพเฉพาะบุคคล (Personalised Foods) ของลูกค้ายุคใหม่
มร.เดวิด เบียร์ดมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพาณิชย์ สินค้าบริโภค เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัสให้ความสำคัญต่อการพัฒนาสินค้าแบรนด์เทสโก้ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งให้มีคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพผู้บริโภค รสชาติอร่อย และมีราคาที่เอื้อมถึงได้ นอกจากนั้น ยังสนับสนุนเกษตรกรผ่านการซื้อวัตถุดิบตรงโดยไม่ผ่านคนกลาง ร่วมมือกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและชุมชนเป็นผู้ผลิตสินค้า มีกระบวนการจัดหาสินค้าและกระบวนการผลิตที่มีจริยธรมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
ปัจจุบันความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลูกค้ามีความคาดหวังว่าสินค้าและบริการต่างๆ จะต้องตอบโจทย์ความต้องการของตนโดยเฉพาะ (personalisation) ซึ่งรวมถึงสินค้าประเภทอาหารด้วย ที่นอกจากจะต้องมีรสชาติอร่อย คุณภาพดี ปลอดภัยแล้ว ในด้านของคุณค่าทางโภชนาการ จะต้องเหมาะสมกับความต้องการหรือข้อจำกัดด้านสุขภาพ ดังนั้น เทสโก้ โลตัสจึงให้ความสำคัญต่อการพัฒนากลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณน้ำตาล โซเดียม ไขมัน หรือเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้าที่แพ้สารบางอย่าง เช่น กลูเตน โดยการปรับสูตร แต่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อรสชาติ ที่ผ่านมาเทสโก้ โลตัสได้ปรับสูตรสินค้าเบเกอรีให้ปราศจากไขมันทรานส์ทั้งหมดก่อนกฎหมายมีผลบังคับใช้, เปิดตัวน้ำอัดลมแบรนด์เทสโก้ที่มีน้ำตาลน้อยและได้รับตราสัญลักษณ์ทางเลือกสุขภาพ และปรับสูตรขนมไทย เช่น เต้าส่วน สาคูเปียกข้าวโพด ลูกเดือยเปียก ให้มีน้ำตาลลดลง 30-50% เป็นต้น
กระบวนการพัฒนาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อยจำเป็นต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ทั้งความเข้าใจลูกค้า วิทยาศาสตร์การอาหาร นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการผลิต จึงทำให้เทสโก้ โลตัสได้ร่วมมือในรูปแบบไตรภาคีกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ สวทน. เพื่อต่อยอดงานวิจัยและนำสูตรมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพแบรนด์เทสโก้ออกสู่ตลาด ทำให้เกิดการบูรณาการและพัฒนาสูตรอาหารที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ ซึ่งเทสโก้ โลตัส ได้ใช้ความเชี่ยวชาญของเราในธุรกิจค้าปลีก ผสานกับความเชี่ยวชาญของนักวิจัยและนักวิชาการที่ใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ และหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการพัฒนาสูตร ทำให้มีตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือ เบื้องต้นได้นำสูตรวาฟเฟิลกรอบที่ใช้แป้งข้าวเจ้าและแป้งมันสำปะหลังทดแทนแป้งสาลี สำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน มาพัฒนาเป็นสินค้าที่คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
นอกจากนั้นยังอยู่ระหว่างการร่วมพัฒนาอีก 3 สูตร คือ เส้นโซบะข้าวชาใบหม่อนจากแป้งข้าวอบแห้ง พุดดิ้งข้าวแหล่งใยอาหารและพรีไบโอติกส์ และโอโวฟิชโปรตีนสูงจากแหล่งไข่ขาวและเนื้อปลา โดยนอกจากสินค้าจะดีต่อสุขภาพผู้บริโภคแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร เช่น ข้าว จาวมะพร้าว และใบหม่อน ลดการเกิดขยะอาหาร (food waste) โดยไม่จำเป็น
รองศาสตราจารย์ ดร.อนุวัตร แจ้งชัด คณบดี คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า สวทน. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเทสโก้ โลตัส ร่วมกันทำงานในรูปแบบ 3 ประสาน (ภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคเอกชน) ภายใต้โครงการวิจัย เมืองนวัตกรรมอาหารภาคกลาง โดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นศูนย์กลางวิจัยเครือข่าย ทำการวิจัยนวัตกรรมการแปรรูปอาหารโดยมีทีมงานอาจารย์ นักวิจัย และนิสิตจากคณะอุตสาหกรรมการเกษตร คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รวมถึงคณะวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 40 คน ดำเนินการวิจัยใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงผสมผสานกับการคัดเลือกวัตถุดิบตั้งต้นที่มีคุณภาพตามที่ต้องการเป็นอาหารเชิงสุขภาพ สามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้จริง
“อาหารสำเร็จรูปที่วางขายในร้านสะดวกซื้อปัจจุบันมักมีข้อด้อยในเรื่องคุณค่าทางโภชนาการ เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการแปรรูป ทำให้มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารลดลงมากเมื่อเทียบกับอาหารสด มีคุณภาพโปรตีนต่ำ หรือมีปริมาณแป้งที่ย่อยได้เร็ว เกลือ น้ำตาล หรือไขมันทรานส์มากเกินไป นอกจากนั้นยังขาดการออกแบบให้มีคุณค่าตามหลักโภชนาการตรงกับสุขภาพเฉพาะบุคคล จึงเป็นที่มาให้คณะนักวิจัยร่วมกันพัฒนาอาหารให้มีจุดเด่น เช่น มีสัดส่วนโปรตีนสูงแต่ย่อยง่าย มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีแหล่งใยอาหาร เป็นต้น และใช้วิธีการแปรรูปอาหารที่ทันสมัยแบบ minimal process, novel process และ hurdle technology เพื่อรักษาคุณภาพและสารอาหารเอาไว้ให้ได้มากที่สุด”
“ความร่วมมือในครั้งนี้มีความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยเป็นการผนวกความเชี่ยวชาญทางวิชาการและเทคโนโลยีเข้ากับความเข้าใจความต้องการของลูกค้า เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มีโภชนาการสูง อร่อย และมีราคาที่เอื้อมถึงได้ นอกจากนั้นยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการขนาดย่อมอีกด้วย” มร.เดวิด เบียร์ดมอร์ กล่าวสรุป