ผู้จัดการรายวัน 360 - C-vitt (ซี-วิต) ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งของตลาดเครื่องดื่มวิตามินซี ยึดผู้นำแชร์ 30% ควงแขนพรีเซ็นเตอร์สุดฮอต เบลล่า ราณี จัดกิจกรรม “C-vitt Big Thank” รุกสร้างแบรนด์ต่อเนื่องควบคู่กับวางกลยุทธ์การสื่อสารขยายฐานลูกค้าจากกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่ เป็นกลุ่มคนทุกเพศทุกวัยที่ใส่ใจสุขภาพ พร้อมขยายช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดเพิ่ม
มร.ชิฮิโระ คุระตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของเครื่องดื่มวิตามินซีแบรนด์ C-vitt กล่าวว่า C-vitt วางตลาดในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2555 เกิดจากความร่วมมือระหว่างสองยักษ์ใหญ่จากประเทศไทยและญี่ปุ่น นั่นคือ “โอสถสภา” และ “เฮ้าส์ ฟู้ดส์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น” ที่ได้ร่วมทุนตั้งบริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด เพื่อวิจัยและพัฒนาเครื่องดื่มวิตามินซี 200% ภายใต้แบรนด์ C-vitt เพื่อตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพในเมืองไทย ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มวิตามินซีรายแรกของประเทศไทย ซึ่งตลอด 7 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“ตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล ดริงก์ ในประเทศไทย มีมูลค่าตลาดประมาณ 6,500 ล้านบาท เติบโตติดลบ 2% สวนทางกับตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีที่ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ขณะที่ C-vitt เอง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอันดับหนึ่งของตลาด ด้วยส่วยแบ่งการตลาด 30% ของมูลค่าตลาดฟังก์ชันนัล ดริงก์ ในประเทศไทย”
มร.ชิฮิโระ คุระตะ กล่าวว่า ปัจจัยความสำเร็จของ C-vitt มีด้วยกันหลายองค์ประกอบ เริ่มต้นที่ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพรสชาติอร่อย อีกทั้งมีราคาที่จับต้องได้ รวมถึงภาพลักษณ์ของสินค้าที่มีความชัดเจนในการสื่อสารถึงจุดแข็งของผลิตภัณฑ์จนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำในเวลาไม่นาน อีกทั้งคนไทยมีพื้นฐานความเข้าใจในประโยชน์ของวิตามินซีอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก และศักยภาพของช่องทางการจัดจำหน่ายที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างสะดวก ผ่านทั้งช่องทางโมเดิร์นเทรด และเทรดดิชันนัลเทรด
สำหรับการทำตลาดของ C-vitt ที่ผ่านมาจะเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพผ่านการสื่อสารผ่านพรีเซ็นเตอร์คนดัง อาทิ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ, ดีเจพุฒิ และ เบลล่า ราณี ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรม Sport Marketing ที่สนุกและท้าทายอย่างการวิ่งมาราธอน โดยได้เข้าไปเป็นสปอนเซอร์การแข่งขันกรุงเทพมาราธอน ซึ่งเป็นการผลักดันแบรนด์ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ
โดย มร.ชิฮิโระ คุระตะ ได้กล่าวถึงแผนการทำตลาดในปี 2562 นี้ว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายฐานการดื่มของเครื่องดื่ม C-vitt ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการขยายฐานการตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้น เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพของผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ด้วยประโยชน์ของการเป็นเครื่องดื่มที่ให้ปริมาณวิตามินซีมาก
ปัจจุบัน C-vitt มีสินค้าอยู่ 3 รสชาติ คือ เลมอน ออเรนจ์ และรสทับทิม โดยจะมีการเดินกลยุทธ์การสื่อสารจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ ผ่านกิจกรรมการสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ และ On-ground Activity โดยล่าสุดได้จัดกิจกรรม C-vitt Big Thank เพื่อขอบคุณคนไทยที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดีในตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยมีพรีเซนเตอร์สาวสุดฮ๊อต เบลล่า ราณี ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก
นอกจากนี้ C-vitt ยังมองถึงการขยายฐานการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมในช่องทางร้านค้าแบบดั้งเดิมหรือเทรดดิชันนัลเทรดมากขึ้น จากเดิมที่ปัจจุบันช่องทางขายผ่านร้านค้าประเภทโมเดิร์นเทรดจะกินสัดส่วนประมาณ 60-70% ของการซื้อทั้งหมด ซึ่งจะเข้ามาช่วยให้สามารถผลักดันสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น สอดรับกับแผนการตลาดที่ต้องการผลักดันให้เครื่องดื่ม C-vitt ก้าวขึ้นมาเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันที่ทุกกลุ่มเป้าหมายดื่มเป็นประจำนั่นเอง
“ที่ผ่านมาเรามีมาร์เกตแชร์อยู่ที่ 30%ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งส่วนหนึ่งของความสำเร็จเกิดจากการมีพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำอย่างโอสถสภาที่เข้ามาร่วมทุน และเป็นคนจัดจำหน่ายให้ การจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและทั่วถึงนี้ ทำให้เราสามารถผลักดันสินค้าถึงมือผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี เมื่อรวมเข้ากับการเข้าใจในความต้องการของลูกค้าก็เข้ามามีส่วนช่วยให้แบรนด์ C-vitt เป็นที่ยอมรับ เป้าหมายสำคัญของเราจึงอยู่ที่หลังจากนี้ไป จะทำอย่างไรให้ C-vitt เข้าไปเป็นเครื่องดื่มในชีวิตประจำวันของคนไทยที่มีการดื่มเป็นประจำทุกวัน นั่นคือความท้าทายที่เราจะต้องทำให้บรรลุเป้าหมายให้ได้” มร.ชิฮิโระ คุระตะกล่าวสรุป