ผู้จัดการรายวัน360 – “ไอคอนสยาม” ปลื้ม เปิดตัวมาเกือบ 3 เดือน ตัวเลขคนเข้าศูนย์ฯเป็นไปตามคาด พบกำลังซื้อคนย่านฝั่งธนบุรีมีสูงไม่น้อยหน้าคนกรุงเทพฯ พร้อมอัดงบตลาดต่อไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ลุยปีนี้ เตรียมพร้อมเปิดอีก 2 สิ่งมหัศจรรย์กลางปีนี้ที่เหลืออีก ล่าสุดเปิดตัว ระบำสายน้ำไฮเทค
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ผู้บริหาร ไอคอนสยาม เปิดเผยว่า หลังจากเปิดบริการไอคอนสยามมาตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 หรือผ่านมาประมาณ 2 เดือนกว่า พบว่าได้รับการตอบรับค่อนข้างดี เพราะถือเป็นเดสติเนชั่นหรือจุดหมายปลายทางแห่งใหม่ของกรุงเทพและไทย โดยในช่วงวันเปิดบริการวันแรกพบว่ามีคนเข้ามาในศูนย์มากกว่า 250,000 คน
ขณะที่หลังจากนั้นในช่วงวันธรรมดามีคนเข้าศูนย์ฯมากกว่า 130,000 คนต่อวัน และวันหยุดประมาณ 150,000 คนต่อวัน เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แบ่งเป็น คนไทย สัดส่วน 70% และนักท่องเที่ยต่างชาติ 30% ซึ่งในจำนวนต่างชาตินี้เป็นจีนมากถึง 80% และรองลงมาคือ กลุ่มซีแอลเอ็มวี
ในส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่มาไอคอนสยามมีทั้งแบบมาเองหรือแบ็คแพ็ค กับกลุ่มที่เป็นทัวร์ ซึ่งในส่วนของทัวร์นี้ไอคอนสยามเองก็มีการเป็นพันธมิตรกับทัวร์แล้วหลายแห่งที่ได้บรรจุการมาไอคอนสยามนี้ไว้อยู่ในโปรแกรมทัวร์หลายแห่งแล้ว หรือแม้แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวรอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์และวัดวาอารามในย่านนี้ เมื่อเที่ยวเสร็จ ในช่วงบ่ายก็มีเวลาว่าง ก็มักจะเข้าที่ไอคอนสยามกันทั้งสิ้น เพราะในย่านนี้ไม่มีศูนย์การค้าแบบนี้แล้ว
นอกจากนั้นในช่วงที่ผ่านมามีการจัดอีเวนต์ใหญ่ไปแล้ว 2 งาน คือ เทศกาลลอยกระทง กับงานใหญ่อีกคือ เคานต์ดาวน์ ซึ่งทำให้ต่างชาติได้รู้จักไอคอนสยามและประเทศไทยรวมทั้งแม่น้ำเจ้าพระยามากขึ้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการจัดงานเคานต์ดาวน์ อะเมวิ่ง ไทยแลนด์ เคานต์ดาวน์ 2019 ซึ่งมีการจุดพลุที่สวยงาม พบว่ามีผู้ชมพลุมากกว่า 1.5 ล้านคน หากนับเฉพาะที่ไอคอนสยามในวันเดียวนั้นมีประมาณ 200,000 คน และได้รับคำชมว่าพลุสวยงามมาก ที่สำคัญคือมีการรายงานข่าวและภาพผ่านทางสื่อระดับโลกของ ซีเอ็นเอ็น บีบีซี และรอยเตอร์ส เป็นต้น
โดยเป็นไปตามแผนแม่บทวิสัยทัศน์แห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไอคอนสยามร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งรัฐและเอกชน ที่จะจุดประกายให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลกทางน้ำด้วย
ในแง่ของกำลังซื้อการจับจ่ายของคนย่านฝั่งธนบุรีนั้น ถือว่า มีมากไม่แพ้ในฝั่งกรุงเทพหรือสยามพารากอนแต่อย่างใด จากการสำรวจกับร้านค้าลักซ์ชัวรี่หลายแบรนด์พบว่า กำลังซื้อของลูกค้าที่เข้ามาในร้านถือว่าดีมีมาก สินค้าบางอย่างมียอดขายที่ดีมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ด้วยซ้ำไป และลักส์ชัวรี่แบรนด์บางแบรนด์ยังได้กลุ่มลูกค้าใหม่ที่เป็นคนย่านนี่ที่ไม่เคยใช้บริการบางแบรนด์มาก่อน ถึง 30-40% บางแบรนด์ลูกค้าจับจ่ายมากถึง 500,000 บาทต่อบิล
อย่างไรก็ตาม ไอคอนสยามก็ยังจะต้องมีการจัดทำการตลาด อีเวนต์ และโปรแกรมต่างๆอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยปี2562นี้คาดว่าจะต้องใช้งบการตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท หลังจากที่ช่วงก่อนหน้านี้ใช้งบการตลาดรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ตั้งแต่การเตรียมเปิดตัวเป็นทางการ ช่วงเปิดตัว จนถึงเดือนมีนาคมปีนี้
รวมไปถึงการเตรียมเปิดอีก 2 ส่วนแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่ ตามโครงการที่เรียกว่า สิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในไอคอนสยาม คือ ทรูไอคอนสยามเป็นศูนย์ประชุมนวัตกรรมล้ำยุค, ริเวอร์มิวเซียมแบงค็อก เป็นพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ที่คาดว่าทั้งสองส่วนนี้จะเปิดได้ช่วงกลางปีนี้ และอีกส่วนที่อยู่นอกโครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีทอง เป็นระบบขนส่งสาธารณะ จากทั้งหมด 7 สิ่งและที่เปิดตัวไปแล้วคือ ริเวอร์พาร์ค พื้นที่คอมมูนิตี้ขนาดใหญ่ริมน้ำกว่า 10,000 ตารางเมตร, สุขสยาม เมืองแห่งมนต์เสน่ห์มหัศจรรย์วิถีไทย, ปรากฎการณ์รวมโลกในรอยไทย เป็นการรวมผลงานอันยอดเยี่ยมของศิลปินทุกแขนงกว่า 100 คน
ล่าสุด คือ ระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ไอคอนิค มัลติมีเดีย วอเตอร์ ฟีเจอร์ส ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้เปิดตัวเป็นทางการแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา โดยเป็นการร่วมมือกับทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (PATA), สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA), สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB, บางกอก ริเวอร์ พาร์ทเนอร์ส, สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, สมาคมเรือไทย, ตลอดจนหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจัดพิธีเปิด Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ ของประเทศไทย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
นายสุพจน์ กล่าวว่า “‘ICONIC Multimedia Water Features’ คือ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของไอคอนสยาม เป็นการแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กว่า 400 เมตร และเป็นการแสดงระบำสายน้ำที่มีการผสมผสานสื่อมัลติมีเดียที่หลากหลายมากที่สุดในโลก สร้างสรรค์การแสดงที่ผสานวัฒนธรรมประเพณีของไทยเข้าไปอย่างกลมกลืน เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของไอคอนสยาม ที่ได้สร้างสรรค์ Attraction ระดับโลกแห่งใหม่ของประเทศไทยให้เกิดขึ้น ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเชิดชูคุณค่าและความสง่างามของแม่น้ำเจ้าพระยาให้โด่งดังไปทั่วโลก”
พร้อมกันนี้ ไอคอนสยามได้จัดกิจกรรมการประกวดภาพถ่าย “ICONIC Multimedia Water Features” ในหัวข้อ The Symphony of Chaophraya River เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยแสดงถึงความสวยงามของ ICONIC Multimedia Water Features ที่ถือเป็น New Global Attraction ในประเทศไทยผ่านทางภาพถ่าย เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจ สามารถส่งผลงานเข้าประกวดได้โดยแบ่งการประกวดเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การประกวดภาพถ่ายจากกล้องถ่ายภาพ และการประกวดภาพถ่ายจากกล้องสมาร์ทโฟน ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ผู้ที่สนใจสามารถโพสต์ภาพเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม ได้ตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมนี้เป็นต้นไป ประกาศผลผู้ชนะการประกวดในวันที่ 16 มีนาคม 2562 ดูรายละเอียดที่ www.iconsiam.com
มร. คาลอส พิซซาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Ghesa Water & Art ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบน้ำพุชื่อดังระดับโลกที่ออกแบบน้ำพุมาแล้วทั่วโลกกว่า 3,000 โครงการ กล่าวว่า “การจับมือกับไอคอนสยาม เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ระดับโลกบนแผ่นดินไทย โดยเป็นการแสดงน้ำพุสุดตระการตา ที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลกเท่าที่มีในปัจจุบัน มีหัวใจของการแสดงอยู่ที่การผสมผสานและนำเสนอความงดงามของวัฒนธรรมประเพณีไทยแบบดั้งเดิมเข้าไปอย่างกลมกลืน จัดแสดง ณ River Park ซึ่งเป็นพื้นที่กลางแจ้ง ที่เปิดรับทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มตา เพื่อสร้างให้เป็น Attraction ใหม่ของประเทศไทยที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้ที่ใดในโลก”
ทั้งนี้ ไฮไลท์ของ ‘ICONIC Multimedia Water Features’ อยู่ที่การยิงน้ำพุขึ้นไปในอากาศด้วยเทคโนโลยี Compress Air Technology ผสมผสานเทคนิคการยิงน้ำพุแบบ 2D 3D และ 4D jets ที่สามารถหมุนได้เหมือนจอยสติ๊ก ยิงน้ำพุขึ้นไปในอากาศที่ความสูงต่างระดับกัน โดยความสูงระดับสูงสุดจะสูงถึง 35 เมตร และอีกหนึ่งไฮไลท์ก็คือ การยิงน้ำพุด้วยเทคโนโลยี Cybernetic Technology ด้วยความเร็ว 0.1 วินาที ออกมาเป็นรูปดอกไม้ กลายเป็นม่านน้ำสำหรับฉายภาพและแสง ประกอบดนตรีที่เน้นเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบไทย เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความเป็นสมัยใหม่และประเพณีความเป็นไทยแบบดั้งเดิม
โดยการแสดงระบำสายน้ำผสมผสานแสง สี เสียง และมัลติมีเดีย ‘ICONIC Multimedia Water Features’ จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปชมฟรี ทุกวันๆ ละ 3 รอบ ในเวลา 18.30 น. 20.00 น. และ 21.00 น. ณ บริเวณ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม .