ส.อ.ท.เผยยอดผลิตรถยนต์ในประเทศปี 2561 ทะลุ 2.16 ล้านคัน สูงสุดในรอบ 5 ปีสอดรับกับยอดขายรถยนต์ในประเทศทะลุ 1.04 ล้านคัน สูงสุดในรอบ 5 ปีเช่นกัน เหตุมียอดจองในงานมหกรรมยานยนต์ เชื่อมั่นดี มาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของรัฐกระตุ้นแรงซื้อ ส่วนปี 2562 วางเป้าผลิตไว้ที่ 2.15 ล้านคัน ลดลงจากปีนี้ 0.82%
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์ปี 2561 (ม.ค.-ธ.ค. 2561) อยู่ที่ 2,167,694 คันสูงสุดในรอบ 5 ปีเพิ่มขึ้นจากช่วง ปี 2560 คิดเป็น 8.99% สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศปี 2561 ที่มียอดขายอยู่ที่ 1,041,739 คัน สูงสุดในรอบ 5 ปี และเพิ่มขึ้นจากปี 2560 คิดเป็น 1.2% โดยปัจจัยสำคัญมาจากเดือน ธ.ค.มียอดขายสูงสุดรอบ 60 เดือนเพราะมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์ที่มีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ประกอบกับการลงทุนภาครัฐและมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
“ยอดขายรถยนต์เดือนธันวาคม 2561 มียอดทั้งสิ้น 110,581 คัน สูงสุดในรอบ 60 เดือนนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2557 เนื่องจากมียอดจองรถยนต์ในงานมหกรรมยานยนต์เดือนธันวาคมถึง 44,189 คัน จากการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ ประกอบกับ เศรษฐกิจดีขึ้นจากการลงทุนของภาครัฐและเอกชน มีการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศยังมีจำนวนมาก รวมทั้งความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น” นายสุรพงษ์กล่าว
ส่วนการส่งออกรถยนต์ตลอดปี 2561 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปรวม 1,140,640 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560 คิดเป็น 0.08% มีค่าส่งออกรวม 594,809 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาคิดเป็น 1.36 % ภาพรวมมูลค่าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป เครื่องยนต์ ชิ้นส่วนอื่นๆ อะไหล่ และจักรยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ ปี 2561 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 948,397.83 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2560 คิดเป็น 0.83%
ทั้งนี้ ปี 2562 ตั้งเป้าผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศ 1.05 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ผลิตได้ 1,024,961คัน 25,039 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2.44% การเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศที่คาดว่าจะเติบโตที่ 3.5% ถึง 3.8% ส่วนเป้าหมายการผลิตรถยนต์รวมปี 2562 อยู่ที่ 2.15 ล้านคัน ลดลงจากปี 2561 คิดเป็น 0.82% เนื่องจากเป้าการส่งออกไว้ที่ 1.2 ล้านคัน เพราะว่าแนวโน้มการส่งออกหลายประเทศลดลงไตรมาสที่ 4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้า