ก้าวสู่ปีใหม่ของการทำงาน มนุษย์เงินเดือนเตรียมตัวรับโบนัส ซึ่งเป็นขวัญกำลังใจจากนายจ้างที่มอบให้แก่ลูกจ้างกับความขยันทุ่มเทในการทำงานดีของปีที่ผ่านมา ล่าสุด เอ็กซ์พีริส (Experis) บริษัทในเครือของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ทำการสำรวจองค์กรธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ในประเทศไทย โดยเปิดเผย 3 กลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อหอมมีการปรับเพิ่มเงินเดือนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและการให้บริการด้านโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงการปรับค่าตอบแทนเฉลี่ยในปี 2662 ของภาคธุรกิจอยู่ที่มากกว่า 3-5 % และธุรกิจส่วนใหญ่กว่า 40 % มีอัตราการจ่ายโบนัสตอบแทนการทำงานตลอดปี 2561 ให้กับพนักงานอยู่ที่อย่างน้อย 1 เดือน จากการสำรวจ ชี้ปัจจัยหนุนจากบรรยากาศทางเศรษฐกิจในประเทศ การลงทุนจากต่างชาติ รวมถึงการส่งออกที่ได้รับอานิสงส์กับกลุ่มธุรกิจ ท็อป 3 ดังกล่าว
เอ็กซ์พีริส ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญในการสรรหาบุคลากรในระดับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งอยู่ในเครือของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้ทำการสำรวจกลุ่มธุรกิจ 1,000 บริษัทในประเทศไทย ประกอบด้วยธุรกิจขนาดเล็กที่มีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 50 คน มีสัดส่วนที่ 23% ธุรกิจขนาดกลางที่มีจำนวนพนักงาน 50 - 250 คน มีสัดส่วนที่ 34% กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากว่า 250 - 1,000 คน มีสัดส่วนที่ 26% และระดับธุรกิจขนาดใหญ่มากหรือบริษัทฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพนักงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป มีสัดส่วนอยู่ที่ 17%จากผลสำรวจตามขนาดของธุรกิจโดยรวมระบุว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 54% มีอัตราการปรับเงินเดือนพนักงานมากกว่า 3-5%ส่วนการจ่ายผลตอบแทนพิเศษ (โบนัส) มีการจ่ายอยู่ที่ 2-3 เดือน
และถ้าแบ่งตามกลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจการให้บริการ สองกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต และกลุ่มธุรกิจการค้าและตัวแทนจำหน่าย ระบุว่า แนวโน้มการปรับค่าตอบแทนขึ้นเฉลี่ยในปี 2019 อยู่ระหว่าง 3-7และมีการจ่ายผลตอบแทนพิเศษ (โบนัส) อยู่ระหว่าง 1-3 เดือน ซึ่งกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการปรับเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด ส่วนกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตมีแนวโน้มการจ่ายโบนัสสูงมากกว่า 5 เดือนมากที่สุด
จากผลสำรวจโดยแบ่งเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจในและระหว่างประเทศ พบว่า มีอัตราการปรับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 3-7% และมีการจ่ายโบนัส 1-3 เดือน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุอีกว่าแนวโน้มการจ่ายโบนัส พบว่า 95% ของกลุ่มองค์กรธุรกิจที่ สำรวจยืนยันการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานของพวกเขา แต่มีเพียง 5% ที่ระบุว่าจะไม่มีการจ่ายโบนัสซึ่งมีเหตุผลมาจากผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมาย ส่วนใหญ่ราว 40% จะจ่ายโบนัสอย่างน้อย 1 เดือน
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อหอมมีการปรับเพิ่มเงินเดือนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและการให้บริการด้านโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ 3 กลุ่มธุรกิจที่มีการจ่ายโบนัสมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจการค้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้า นับได้ว่า 2 กลุ่มธุรกิจที่ติดท็อป 3 ทั้งเงินเดือนขึ้นและโบนัสสูงนับเป็นธุรกิจที่น่าจับตามากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจต่างๆ ส่งผลต่อจีดีพีของประเทศซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสนับสนุนด้านนโยบายจากทางภาครัฐในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจทั้งการค้า การลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคอุตสาหกรรมใน EEC รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและระหว่างประเทศสู่การส่งออกอย่างมีนัยสำคัญต่อไป
เอ็กซ์พีริส ประเทศไทย ผู้เชี่ยวชาญในการสรรหาบุคลากรในระดับผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ซึ่งอยู่ในเครือของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้ทำการสำรวจกลุ่มธุรกิจ 1,000 บริษัทในประเทศไทย ประกอบด้วยธุรกิจขนาดเล็กที่มีจำนวนพนักงานน้อยกว่า 50 คน มีสัดส่วนที่ 23% ธุรกิจขนาดกลางที่มีจำนวนพนักงาน 50 - 250 คน มีสัดส่วนที่ 34% กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีพนักงานมากว่า 250 - 1,000 คน มีสัดส่วนที่ 26% และระดับธุรกิจขนาดใหญ่มากหรือบริษัทฯที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีพนักงานตั้งแต่ 1,000 คนขึ้นไป มีสัดส่วนอยู่ที่ 17%จากผลสำรวจตามขนาดของธุรกิจโดยรวมระบุว่า ธุรกิจขนาดใหญ่ส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 54% มีอัตราการปรับเงินเดือนพนักงานมากกว่า 3-5%ส่วนการจ่ายผลตอบแทนพิเศษ (โบนัส) มีการจ่ายอยู่ที่ 2-3 เดือน
และถ้าแบ่งตามกลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วยกลุ่มธุรกิจการให้บริการ สองกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต และกลุ่มธุรกิจการค้าและตัวแทนจำหน่าย ระบุว่า แนวโน้มการปรับค่าตอบแทนขึ้นเฉลี่ยในปี 2019 อยู่ระหว่าง 3-7และมีการจ่ายผลตอบแทนพิเศษ (โบนัส) อยู่ระหว่าง 1-3 เดือน ซึ่งกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีการปรับเงินเดือนเฉลี่ยสูงสุด ส่วนกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตมีแนวโน้มการจ่ายโบนัสสูงมากกว่า 5 เดือนมากที่สุด
จากผลสำรวจโดยแบ่งเป็นกลุ่มองค์กรธุรกิจในและระหว่างประเทศ พบว่า มีอัตราการปรับเงินเดือนเฉลี่ยอยู่ที่ 3-7% และมีการจ่ายโบนัส 1-3 เดือน
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังระบุอีกว่าแนวโน้มการจ่ายโบนัส พบว่า 95% ของกลุ่มองค์กรธุรกิจที่ สำรวจยืนยันการจ่ายโบนัสให้กับพนักงานของพวกเขา แต่มีเพียง 5% ที่ระบุว่าจะไม่มีการจ่ายโบนัสซึ่งมีเหตุผลมาจากผลประกอบการต่ำกว่าเป้าหมาย ส่วนใหญ่ราว 40% จะจ่ายโบนัสอย่างน้อย 1 เดือน
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อหอมมีการปรับเพิ่มเงินเดือนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาและการให้บริการด้านโซลูชั่น กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ 3 กลุ่มธุรกิจที่มีการจ่ายโบนัสมากที่สุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มธุรกิจการค้าและตัวแทนจำหน่ายสินค้า นับได้ว่า 2 กลุ่มธุรกิจที่ติดท็อป 3 ทั้งเงินเดือนขึ้นและโบนัสสูงนับเป็นธุรกิจที่น่าจับตามากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของธุรกิจต่างๆ ส่งผลต่อจีดีพีของประเทศซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสนับสนุนด้านนโยบายจากทางภาครัฐในการพัฒนาและยกระดับเศรษฐกิจทั้งการค้า การลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาคอุตสาหกรรมใน EEC รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในและระหว่างประเทศสู่การส่งออกอย่างมีนัยสำคัญต่อไป