xs
xsm
sm
md
lg

โซเชียลเกิดผลแค่ 2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โซเชียลใช้เกิดผลแค่ 2% เหตุแบรนด์ยังติดกับดักบนโลกออนไลน์ "เฟลชแมน" ชู 2 หลักการนำแบรนด์โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ล่าสุดผุดแผนกโซเชียลแอนด์อินโนเวชันในไทย กู้วิกฤตการใช้โซเชียลให้ถูกทางและแม่นยำ เพื่อมัดใจคนไทยที่ขึ้นชื่อติดโผการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอันดับ 1 ของโลก

นายไมค์ เคอร์ลีย์ กรรมการผู้จัดการโซเชียลแอนด์อินโนเวชัน ในกลุ่มบริษัท เฟลชแมน ฮิลลาร์ด เปิดเผยว่า สถานการณ์โลกในปัจจุบัน จากจำนวนประชากรโลกกว่า 7,600 ล้านคน เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 4,200 ล้านคน และกว่า 3,400 ล้านคนเข้าถึงการใช้งานของโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ยังพบว่า 1 คนจะมีแอ็กเคานต์ 5.5 แอ็กเคานต์ในการใช้งานกับสื่อโซเชียล เป็นข้อดีของแบรนด์ที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้หลายช่องทาง แต่ก็เป็นความท้าทายเพราะผู้บริโภคมีทางเลือกและความน่าในใจต่างๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน

จากผลสำรวจการใช้สื่อออนไลน์ล่าสุดโดย WE ARE SOCIAL พบว่า คนไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ในหลายๆ ด้าน เช่น เป็นอันดับ 1 ของโลกในการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ 9 ชั่วโมง 38 นาทีต่อวัน และในด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ชาวไทยใช้งานสูงถึง 3 ชั่วโมง 10 นาทีต่อวัน รวมถึงเข้าดูยูทูปสูงถึง 17 ล้านวิว/วัน

จะเห็นได้ว่าปัจจุบันทุกแบรนด์ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กในการพูดคุย ประชาสัมพันธ์ บอกกล่าวข้อมูลผลิตภัณฑ์ ปิดการขาย เฉลี่ยนำเสนอ 35 คอนเทนต์ต่อวัน เมื่อรวมกับหลายๆ แบรนด์ทำให้มีคอนเทนต์มากมาย และเป็นคอนเทนต์ที่มีลักษณะคล้ายๆ กัน การที่จะทำให้แบรนด์โดดเด่นในสถานการณ์นี้จึงเป็นความท้าทายอย่างมาก

เพราะปัจจุบันทุกแบรนด์ยังติดกับอยู่กับเรื่องของสถิติการเข้าชมผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ รวมถึงติดอยู่กับเทรนด์เครื่องมือใหม่ที่ได้รับความนิยม แต่ลืมคิดถึงความเป็นจริงว่าแบรนด์ต้องการเน้นหรือต้องการอะไรจากการใช้โซเชียลมีเดีย บวกกับแบรนด์เริ่มเล็งเห็นถึงปัญหาของยอดการเข้าถึงและระบบที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา เทคโนโลยีเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้แบรนด์ไม่สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น Augmented Reality ( A.R), Virtual Reality (VR), Chatbot และ Big Data เป็นต้น

นายไมค์กล่าวต่อว่า จากความท้าทายที่เกิดขึ้น ทางเฟลชแมนพบว่ามี 2 หลักการการใช้สื่อโซเชียลมีเดียที่จะช่วยแบรนด์สื่อสารได้โดนใจผู้บริโภคยิ่งขึ้น คือ Courege& Commitment กล่าวคือ 1. กล้าที่จะแปลก กล้าที่จะเปลี่ยน เพราะใดๆ ในโลกล้วนเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ถ้าไม่อยากถูกลืม แบรนด์ต้องกล้าที่จะเปลี่ยน แล้วคุณอาจจะกลายเป็น 'คนแรก' ที่คนอื่นต้องเดินตาม และ 2. โซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่ทุกแบรนด์ต้องมี แต่ต้องทำให้ดีและโดน ซึ่งการใช้โซเชียลมีเดียให้ได้ผลตามที่ต้องการต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน และเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

ด้านนายอาสา ผิวขำ ผู้อำนวยการบริหาร สายงานโซเชียลแอนด์อินโนเวชัน เฟลชแมน ฮิลลาร์ด ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า เราเชื่อว่าหากแบรนด์เข้าใจการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวางแผนอย่างมีชั้นเชิงก็จะสามารถอยู่ในใจของผู้บริโภคได้ ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วเพียงใด ล่าสุดทางบริษัทได้เปิดหน่วยงานโซเชียลแอนด์อินโนเวชันขึ้น ซึ่งแผนกนี้มีสำนักงานกระจายอยู่ 8 แห่งทั่วโลก ด้วยทีมงานกว่า 250 คนที่พร้อมให้บริการ ได้แก่ 1. กลยุทธ์ด้านสื่อโซเชียลและออนไลน์ 2. การสื่อสารแบรนด์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล 3. การบริหารจัดการชุมชนออนไลน์ 4. การบริหารจัดการสื่อออนไลน์และอินฟลูเอนเซอร์ 5. การสร้างสรรค์สื่อดิจิทัล และ 6. การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เชิงลึก

***โซเชียลเกิดผลแค่ 2%
อย่างไรก็ตาม จากการทำวิจัยของเฟลชแมน ฮิลลาร์ด เพื่อวิเคราะห์การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กของแบรนด์ระดับโลก 50 แบรนด์ พบว่ามีเพียง 2% เท่านั้นที่สามารถสื่อสารผ่านช่องทางนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ค้นพบว่าแบรนด์จะประสบความสำเร็จและโดดเด่นขึ้นมาเป็น 2% ได้นั้นต้องรู้ว่าจะทำอะไร ต้องการอะไร และใช้สื่อโซเชียลแบบใด โดยต้องตอบคำถามให้ได้ใน 3 ข้อนี้ คือ 1. เราต้องการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กทำอะไร อย่างไร ให้เป็นโทรโข่ง หรือใช้เป็นโทรศัพท์ เพราะการใช้โซเชียลมีเดีย ไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว ต้องรู้ว่าใช้เพื่อวัตถุประสงค์อะไร และแพลตฟอร์มใดจะบอกกล่าวออกไปได้ดังและตรงจุดประสงค์ที่สุด 2. แบรนด์ใช้ศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือผสมผสานศาสตร์และศิลป์ในการสื่อสารผ่านโซเชียล

เพราะทุกการสื่อสารควรมีข้อมูลหรือดาต้า และข้อมูลเชิงลึกประกอบเพื่อนำไปสู่การหาแนวทางสื่อสารที่ถูกต้อง และ 3. เรามองหาผลลัพธ์ของแคมเปญ หรือวัตถุประสงค์ที่กว้างกว่านั้น เพราะแท้จริงแล้วความท้าทายของแบรนด์อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรเพื่อตอบวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ให้ดีที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น