คนร.สั่งการบินไทยเร่งขายเครื่องเก่า และบริหารการบินร่วมกับ ไทยสมายล์-นกแอร์ ให้ชัดเจน และเร่งรัด ร.ฟ.ท.ส่งแผนรถไฟทางคู่เฟส 2 และตั้งบริษัทลูกเดินรถสีแดง ด้าน “สุเมธ” เตรียมปรับแผน บริหารต้นทุนไทยสมายล์
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ครั้งที่ 1/2562 วันที่ 17 ม.ค. ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง คนร.ได้มอบหมายให้การบินไทย เร่งจำหน่ายเครื่องบินที่ปลดระวาง และสร้างความชัดเจนถึงการดำเนินการร่วมกับบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด และบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน)
รวมถึงรับทราบรายงานความคืบหน้าแผนการลงทุนและบริหารทรัพย์สิน การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และเร่งรัดการพัฒนาโครงสร้างทางคู่และทางสายใหม่ทั้งหมดให้ได้ภายในปีนี้ รวมถึงให้มีการนำเชื้อเพลิง B20 มาใช้
รายงานข่าวแจ้งว่า ร.ฟ.ท.ได้เสนอแผนการตั้งบริษัทลูก บริหารทรัพย์สิน และบริษัทลูกในการเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเสนอไปยัง สคร.ได้ภายในเดือน ม.ค.นี้
สำหรับการตั้งบริษัทลูกเดินรถสีแดง เบื้องต้นจะยกระดับ บริษัท แอร์พอร์ตลิงก์ ขึ้นมา โดยเบื้องต้นกำหนดทุนจดทะเบียนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ทุนจากค่าขบวนรถไฟฟ้าประมาณ 6 พันล้านบาท และเงินทุนในการบริหารงาน 3 พันล้านบาท โดยจะกำหนดการทำงานให้มีอิสระเพื่อความคล่องตัวในการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ และสามารถเลี้ยงตัวเองได้
***“สุเมธ” จ่อนั่งประธานบอร์ดไทยสมายล์ ปรับแผนบริหารต้นทุน
ด้านนายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า มีเป้าหมายที่จะทำให้สายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของการบินไทยมีความเข้มแข็งมากขึ้น ซึ่งตนได้เข้าไปเป็นบอร์ดของไทยสมายล์แล้ว และจะมีการแต่งตั้งเป็นประธานบอร์ดต่อไป ซึ่งจะทำให้การทำงานและการเชื่อมต่อนโยบายกับการบินไทยได้ดีขึ้น โดยจะเน้นการเชื่อมโยงในการทำธุรกิจการบินระหว่างการบินไทยกับไทยสมายล์และนกแอร์ และช่วยในการบริหารจัดการต้นทุนให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น เชื่อว่าจะทำให้ผลประกอบการของไทยสมายล์ดีขึ้น จากเดิมที่อาจจะมีช่องว่างในการบริหารงานร่วมกันระหว่างบริษัทแม่กับบริษัทลูก
ส่วนนกแอร์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ซึ่งจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ถึงจะมีความชัดเจน หลังจากนั้นการบินไทยจะมีการวิเคราะห์และพิจารณาในการวางบทบาทต่อไป