“อาคม”ตรวจใกล้ชิด วัดค่าควันดำ รถเมล์ ขสมก. พบค่าเฉลี่ยระดับ 15-20% ยังต่ำกว่ามาตรฐาน ขบ.จัดทีมลุยตรวจ 20 อู่รถเมล์ อู่พร้อมเร่งแผนเปลี่ยนไปใช้น้ำมันดีเซล B20 เร็วขึ้นภายใน 1 ก.พ.นี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงพื้นที่ตรวจเข้มรถโดยสารประจำทางของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ที่ใช้น้ำมันดีเซล ก่อนออกให้บริการ ตามนโยบาย “One Transport ปลอดฝุ่น PM 2.5 คมนาคมรวมใจ ช่วยลดฝุ่น เพื่อความสุข สุขภาพดี ของประชาชน” ณ อู่หมอชิต เขตการเดินรถที่ 8 กรุงเทพฯ โดยกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้จัดเจ้าหน้าที่ตรวจตรวจสอบปริมาณค่าควันดำของรถโดยสารปรับอากาศและรถโดยสารธรรมดา ผ่านเครื่องวัดค่าควันดำ ซึ่งต้องมีค่าควันไม่เกิน 45 % ตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ
นายอาคมกล่าวว่า ที่อู่หมอชิต ได้มีการตรวจสอบรถจำนวน 111 คัน เป็นรถปรับอากาศ 59 คัน ตรวจค่าควันดำ ระดับ 15-20% ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐาน ส่วน รถร้อน 52 คัน ตรวจพบอยู่ในระดับ 15-20 % เช่นกัน ทั้งนี้ ที่ยังพบมีค่าควันดำอยู่ เพราะรถขสมก.ส่วนใหญ่เป็นรถเก่า ที่มีอายุประมาณ 20 ปี ซึ่งถือว่า ยังน่าพอใจที่ระดับควันดำต่ำกว่าค่ามาตรฐาน 3 เท่า
ซึ่งรถที่ใช้น้ำมันดีเซล B 7 เหล่านี้ โดยได้สั่งการให้ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนไปใช้น้ำมัน B20 ซึ่งจะทำให้ค่าควันดำลดลง3.7 % โดย ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ได้นำน้ำมันB 20 ใช้กับรถเมล์ ธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่ และมิตซูบิชิ จำนวน 815 คัน และได้เร่งรัดการปรับเปลี่ยน ระยะที่ 2 จากวันที่ 15 ก.พ. 2562 ให้เร็วขึ้นเป็น 1 ก.พ. อีกจำนวน 1,260 คัน
อย่างไรก็ตาม ขบ. จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบรถโดยสารฯ ในอู่จอดรถทั้ง 20 อู่ ของ ขสมก. และจุดที่มีค่าควันเกินมาตรฐาน คือเขตดินแดงและจตุจักร ใช้เวลาดำเนินการ 2 วัน คือ วันที่ 17 - 18 ม.ค. 2562 โดย นายอาคม ได้สั่งการให้ ขบ. นำสติ๊กเกอร์ติดรถที่ผ่านการตรวจค่าควันดำพร้อมแสดงค่าควันที่ตรวจได้ และให้ ขสมก. ทำ Big Cleaning บริเวณอู่รถ อีกด้วย