ผู้จัดการรายวัน 360 - อินเวอร์เตอร์กำหนดอนาคตตลาดแอร์ คาดปี 2563 กินแชร์ทะลุ 90% “มิตซูบิชิ” ผู้นำตลาดแอร์ เดินหน้าป้องกันแชมป์ ส่ง “แฮปปี้ อินเวอร์เตอร์” แอร์ซีรีส์ใหม่ราคาชนรุ่นปกติสูงกว่า 10% เท่านั้น จบปีงบประมาณ 2562 ส่งรายได้รวมทะลุ 15,500 ล้านบาท แอร์โต 10% รั้งบัลลังก์ผู้นำด้วยแชร์ 34%
นายยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2563 บริษัท บิตซูบิชิ อีเล็คทริค คอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) จะครบ 100 ปี ตั้งเป้ายอดขายไม่ต่ำกว่า 5 ล้านล้านเยน ซึ่งในปี 2562 นี้ยังมุ่งมั่นเสริมกลยุทธ์สร้างการเติบโตในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศเป็นหลัก โดยไทยเป็นศูนย์กลางเอเชีย
ปัจจุบันการแข่งขันของตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านค่อนข้างสูง แต่ช่วงปี 2561 ภาพรวมความต้องการเครื่องปรับอากาศยังโต 100% จึงมั่นใจว่าผลประกอบการในปีงบประมาณ 2561 ที่จะสิ้นสุดเดือน มี.ค.ที่จะถึงนี้จะทำได้ 14,000 ล้านบาท สัดส่วนรายได้มาจากแอร์ 60-70% ตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนปี 2562 ตั้งเป้าการเติบโตอีก 10% หรือมียอดขาย 15,500 ล้านบาท
นายประพนธ์ โพธิวรคุณ กรรมการรองผู้จัดการ บริษัท บิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า แผนงานรุกตลาดเครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิปี 2562 จะให้ความสำคัญต่อการขยายตลาดในเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ และเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน โดยใช้งบประมาณการตลาดในปีนี้ทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท โดยจะให้ความสำคัญไปยังการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และกิจกรรมส่งเสริมการขาย พร้อมดึงโป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ พาร์ตเนอร์พรีเซ็นเตอร์ ปีที่ 5
นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าขยายสาขาของศูนย์บริการมิตซูบิชิ อีเล็คทริคเพิ่มขึ้นอีก 12 แห่ง รวมเป็น 155 แห่งทั่วประเทศ รวมไปถึงศูนย์บริการสำหรับกลุ่มลูกค้าเชิงพาณิชย์ “สำนักงานสนับสนุนลูกค้าโครงการระบบปรับอากาศซิตี้มัลติ” ซึ่งปัจจุบันมีรองรับการบริการกว่า 4 สาขา ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี และอุดรธานี
อย่างไรก็ตาม พบว่าปัจจุบันตลาดแอร์แข่งขันสูง และในตลาดเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ 60% ในปี 2563 (ปี ค.ศ. 2020) จะเพิ่มเป็น 90% ส่งผลให้แผนการทำตลาดแอร์นั้นจะมุ่งเรื่องของอินเวอร์เตอร์เป็นหลัก โดยปีนี้จะเปิดตัว 2 รุ่น คือ GR Series มาพร้อมฟังก์ชัน FAST COOLING, SLEEP MODE รวมถึงแผ่นกรองอากาศ PM 2.5 ที่ช่วยกรองอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 2.5 ไมครอน และ 2. Happy Inverter ที่จะเป็นไฟติ้งซีรีส์ จับกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนแอร์ และต้องการหันมาใช้อินเวอร์เตอร์ครั้งแรก ซึ่งวางจำหน่ายในราคาที่ไม่สูงมากนัก เฉลี่ยสูงกว่ารุ่นปกติเพียง 10% เท่านั้น
บริษัทฯ มั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญ ช่วยให้ยอดขายแอร์ในปีงบประมาณ 2562 เติบโตขึ้น 10% สูงกว่าตลาดรวมแอร์ปีนี้ที่มองว่าจะทรงตัวที่ 1.2 ล้านเครื่อง มูลค่าตลาดที่ 20,000 ล้านบาท และส่งผลให้ภาพรวมรายได้ปี 2562 เติบโตขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่ากว่า 15,500 ล้านบาท มาจากแอร์ 60-70% พร้อมรักษาผู้นำตลาดด้วยแชร์ 34-35%