ขสมก.ขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถโดยสารทุกคัน กว่า 2 พันคัน หลังผลการทดลองนำร่อง น่าพอใจ อัตราสิ้นเปลืองเท่า น้ำมัน B7 ขณะที่ราคาถูกกว่า 3 บาท/ ลิตร คาดประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้ถึง 198 ล./ปี และเป็นการพยุงราคาปาล์ม ช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกทาง
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากที่ ขสมก.ได้มีการทดลองใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงคมนาคมและกระทรวงพลังงาน ในการดำเนินโครงการนำร่องนำร่อง ส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในภาคคมนาคมขนส่ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการนำน้ำมันปาล์ม เพื่อแก้ปัญหาสถานการณ์ผลผลิตปาล์มล้นตลาด ทำให้มีราคาตกต่ำ
โดยทดลอง ใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่ มิตซูบิชิ และอีซูซุ จำนวน 17 คัน เมื่อช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2561 ซึ่งผลการทดลองพบว่า น้ำมันดีเซล B20 มีอัตราการสิ้นเปลืองใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซล B7 ที่ ขสมก.ใช้อยู่ในปัจจุบัน อีกทั้ง ยังมีค่าควันดำอยู่ในเกณฑ์ปกติ และค่ามลพิษ (CO2) ลดลง 15 % จึงส่งผลทำให้ค่ามลพิษในอากาศภาพรวมลดลงด้วย
ดังนั้น ขสมก.จึงมีการขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารธรรมดา และ รถโดยสารปรับอากาศ จำนวน 2,075 คัน โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 1 ใช้กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อฮีโน่ และมิตซูบิชิ จำนวน 815 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562
ระยะที่ 2 ใช้กับรถโดยสารธรรมดา ยี่ห้อมิตซูบิชิ และอีซูซุ รถโดยสารปรับอากาศครีม - น้ำเงิน ยี่ห้ออีซูซุ และฮีโน่ รถโดยสารปรับอากาศยูโรทู ยี่ห้ออีซูซุ เบนซ์ และแดวู จำนวน 1,260 คัน ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 เป็นต้นไป
ปัจจุบัน ขสมก.มีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซล B7 เดือนละประมาณ 5.5 ล้านลิตร หรือปีละ 66 ล้านลิตร เมื่อ ขสมก.เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล B20 ซึ่งมีราคาถูกกว่า B7 ลิตรละ 3 บาท จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงให้กับ ขสมก. เดือนละ 16.5 ล้านบาท หรือปีละ 198 ล้านบาท อีกทั้ง ยังช่วยเกษตรกรชาวสวนปาล์ม สามารถนำน้ำมันปาล์มมาใช้ เป็นส่วนผสมในการผลิตน้ำมันดีเซล B20 ได้ปีละประมาณ 8.58 ล้านลิตร
อย่างไรก็ตามการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสาร ขสมก.ในระยะแรก จะต้องมีการล้างน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งระบบทางเดินน้ำมัน เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง รวมทั้งมีการเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันดีเซล ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และไส้กรองอากาศ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายคันละประมาณ 30,000 บาท
โดย ขสมก.ได้รับความร่วมมือจากบริษัทเหมาซ่อมได้แก่ บริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ออโต้เทคนิค (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท แสงเจริญทูลส์ เซ็นเตอร์ จำกัด
นอกจากนี้ ขสมก.ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ในการจัดหาถังน้ำมัน พร้อมจัดส่งน้ำมันดีเซล B20 ให้เพียงพอกับความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละวัน ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานกระทรวงคมนาคม กรมควบคุมมลพิษ และ ขสมก.คาดหวังว่า การขยายผลการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถโดยสารทุกคันจะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์ม และช่วยสร้างความสุขให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์มอย่างยั่งยืนต่อไป