“สมคิด” มอบบีโอไอปรับบทบาทรับอนาคต ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำอัดสิทธิประโยชน์พิเศษกระจายลงทุนสู่ภูมิภาคที่เน้นเกษตรกรรม วิสาหกิจในพื้นที่ ปัดฝุ่นบ้านบีโอไอช่วยคนรายได้น้อย ขยายเขตพัฒนาพิเศษไปเหนือและอีสานปั้นสตาร์ทอัพ และทำการท่องเที่ยวให้เป็นศูนย์กลางการเติบโต ศก.ไทย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการทำงาน และการส่งเสริมการลงทุนในปี 2562 ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า ได้มอบหมายให้บีโอไอไปปรับบทบาทที่จะดำเนินการในอนาคตข้างหน้าที่สำคัญ บีโอไอต้องมีบทบาทที่จะลดความเหลื่อมล้ำสร้างความทัดเทียมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยการออกนโยบายส่งเสริมการลงทุนที่จะให้สิทธิประโยชน์เป็นพิเศษที่จะไปยังสร้างความเจริญภูมิภาค เช่น ธุรกิจที่ไปลงทุนพัฒนาเกษตรกรรมท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน การตลาด การพัฒนาบุคลากร ลงทุนลอจิสติกส์เชื่อมโยงเมืองรอง การท่องเที่ยวเมืองรอง ฯลฯ
“เราส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมถือว่าประสบความสำเร็จแล้วแต่เราจะต้องใช้เครื่องมือของบีโอไอที่มีอยู่สร้างความเท่าเทียมกันไปยังภูมิภาค ซึ่งการลดความเหลื่อมล้ำตัวอย่างบีโอไอเคยทำบ้านบีโอไอมาแล้วแต่ช่วงหลังเอกชนเขาไม่ลงทุนเพราะที่ดินแพง ก็คงต้องไปดูเพราะล่าสุดพบว่าความต้องการบ้านที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่าล้านมีสูงมาก” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ บีโอไอจะต้องมีบทบาทบูรณาการและออกแบบเพื่อที่จะส่งเสริมการพัฒนาการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นในลักษณะเดียวกับอีอีซี ซึ่งต่อไปจะต้องมองไปที่เขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ (SEC) ในพื้นที่ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ระนอง และปีนี้จะต้องขยายเพิ่มไปยังเขตพัฒนาพิเศษตะวันออกเฉียงเหนือ และเขตพัฒนาพิเศษภาคเหนือ โดยเหล่านี้จะทำอย่างไรให้เป็นการเกิดขึ้นของผู้ประกอบการใหม่ (สตาร์ทอัพ) ที่จะรองรับการลงทุนในพื้นที่ดังกล่าวที่เชื่อมโยงกับวัตถุดิบในท้องที่นั้นๆ เช่น ภาคตะวันออกว่าด้วยอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและเคมีชีวภาพ เป็นต้น
ที่สำคัญ บทบาทบีโอไอจะต้องพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเพื่อให้เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจไทย ซึ่งพบว่าขณะนี้การท่องเที่ยวมีสัดส่วนต่อจีดีพีสูงถึง 15% และอาจปรับเพิ่มขึ้นเป็น 18-19% ดังนั้นบีโอไอต้องสร้างกิจการให้หมุนรอบวงนี้ ที่จะเชื่อมโยงกับชุมชน เกษตร การพัฒนาบัณฑิตที่จะรองรับการท่องเที่ยวและบริการ เป็นต้น
“การทำงานที่บีโอไอจะต้องเน้นในปีนี้ ได้แก่ ให้บีโอไอร่วมพัฒนากับฮ่องกงที่เกี่ยวข้องกับไซเบอร์พอร์ต การที่จีนและญี่ปุ่นมองการลงทุนประเทศที่สาม และมองมาที่ไทยก็ต้องใช้โอกาสนี้ในการดำเนินการขับเคลื่อนการลงทุน การสัมมนาประจำปี 2562 เพื่อดึงดูดการลงทุนที่จะจัดในต้น มี.ค. และการโรดโชว์ญี่ปุ่น” นายสมคิดกล่าว