xs
xsm
sm
md
lg

สงคราม”ทีวีดิจิทัล”ปรับตัวรอบทิศ ดิ้นสู้”ชูรีรัน-พึ่งพันธมิตร-คุมต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ผู้จัดการรายวัน360- เปิดกลยุทธ์เอาชีวิตรอด 'ทีวีดิจิทัล' ส่งท้ายปี61 ขนละครรีรันคุ้มต้นทุนเพียบ เหตุหมดยุคไทม์แชร์ริ่ง พันธมิตรคอนเทนต์ทยอยออกหนีตาย ช่อง7อ่วมหนัก วาไรตี้เกลี้ยง ช่อง3ชวดคอนเทนต์ดัง หลายช่องทิ้งไพ่เมินรายได้โฆษณา พึ่งพันธมิตรหารายได้เอง

คลื่นซัดทีวีดิจิทัลตลอดปี2561 จากที่เจ็บหนักจากเม็ดเงินโฆษณา 50,000กว่าล้านบาทมันฝืด แถมเทไหลไปกระจุกตัวในสื่อออนไลน์อยู่แล้ว ผลกระทบที่ตามมาเป็นดั่งตัวโดมิโน เจอกันเป็นทอดๆ เล่นเอาปีนี้ทั้งช่องใหญ่ช่องเล็ก ต้องยอมรับความจริง และปรับตัวลุยต่อ สู่การแข่งขันเฟส2 ในสมรภูมิที่เป็นธรรม ไม่มีใครได้เปรียบและเสียเปรียบกันอีกต่อไปในปี2562

*** เจ้าตลาดช่อง7,ช่อง3 ดิ้น ชูละครรีรันแก้หน้า

เมื่อช่องใหญ่สะเทือน ถือเป็นสัญญาณร้าย แม้แต่ช่อง7เอง ตลอดปีที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ช่อง7มีการปรับตัวครั้งใหญ่ เหตุจากรายการวาไรตี้ทิ้งจอเกลี้ยง โดยเฉพาะช่วงวาไรตี้ไพร์มไทม์หลังละคร2ทุ่มครึ่ง จากช่วงกลางปี รายการที่นี่หมอชิตลาจอ และส่งท้ายปีกับ กิ๊กดู๋ สงครามเพลงโยกมือลาไปซบช่อง PPTVแทน ทำให้ช่วงเสลาดังกล่าว เหลือเพียง รายการ เรื่องจริงผ่านจอ รายการเดียวที่อยู่ยงคงกระพัน

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ช่อง7แก้เกมด้วยการนำละครมารีรัน ดึงซีรีย์เกาหลีมาเสียบแทน นำภาพยนตร์ดังมาจัดตาทัพ รวมถึงผลิตราการพิเศษแทนไปก่อน ส่วนสำคัญเกิดจาก พันธมิตรสู้ต่อไม่ไหว เพราะช่อง7ใช้โมเดลไทม์แชร์ริ่งเป็นหลัก และหลังจาก เจเอสแอลขอลาจาก เวลานี้ช่อง7จึงต้องพึ่ง บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เป็นหลัก กับหลายวาไรตี้รายการที่ประสบความสำเร็จช่วงไพร์มไทม์เย็นช่วง 16.00-18.00น. //

เช่นเดียวกับช่อง3 ปีนี้ช่อง3ยอมให้คอนเทนต์ดีๆหลุดมือไปอย่างน่าแปลกใจ ทั้ง เดอะวอยซ์ และเดอะเฟซเมน ที่ไปอยู่ช่อง PPTV แทน และนำละครเก่ากลับมารีรันในหลายช่วงของแต่ละวัน ซึ่งเหตุผลหลักคือ การลดต้นทุน ล่าสุดในเดือนธ.คนี้ ช่อง3ได้งัดละครกลับมารีรันช่วงไพร์มไทม์อีกครั้ง

นายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย หัวหน้าคณะผู้บริหารสายกิจการองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงสิ้นปี2561นี้ ทางช่อง3 จะนำละครที่พึ่งลาจอไปในปีนี้กลับมารีรันอีกครั้งรวม 2 เรื่อง คือ 1.อังกอร์ ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา18.20-20.05 น. ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.61 เป็นไปต้นไป และ 2. ลิขิตรัก The Crown Princess เวลา 20.20-22.50 น. ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองเรื่องจะรีรันยาวจนจบภายในเดือนธ.ค.61 และพอเข้าสู่สัปดาห์แรกของเดือนม.ค. 62 จะลงล็อตละครใหม่ต่อทันที เช่น ตุ๊กตาผี, บ่วงนฤมิต, หน่วยลับสลับเลิฟ และชุมแพ


"การดึงละครมารีรันในเดือนธ.ค.61นั้น เนื่องจากเดือนนี้แนวโน้มเม็ดเงินโฆษณาไม่ค่อยดี คนดูก็น้อยลงด้วย เพราะมีวันหยุดยาว ไม่อยู่บ้านกัน เลยมองว่ายังไม่ควรลงละครใหม่การลงละครรีรันเป็นการลดต้นทุนที่ดี ด้วย และการนำละครทั้งสองเรื่องคือ อังกอร์ และลิขิตรัก The Crown Princess มารีรันนั้น เนื่องจากเรตติ้งของทั้งสองเรื่องดีอยู่ก่อนแล้ว และยังมีผู้ชมที่ยังอยากชมอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ยังไม่เคยดู"


นายชาคริต กล่าวด้วยว่า ภาพรวมการแข่งขันทีวีดิจิทัลในปีหน้า(2562) ยังเป็นปีที่เหนื่อย เพราะการแข่งขันยังคงรุนแรง ในส่วนของช่อง3 ยังคงเดินหน้านำเสนอคอนเทนต์รายการใหม่ๆ โดยเฉพาะละคร และวาไรตี้ ล่าสุดในปี62 จะมีรายการใหม่เข้ามาเสริมทัพต่อเนื่อง เช่น รายการDevidedที่มี “ดู๋ สัญญา”รับหน้าที่พิธีกร โดย“Devided”เป็นรายการประเภทควิซโชว์ ลิขสิทธิ์ต่างประเทศ จากกลุ่มทัลปา มีเดีย ที่มีรายการดังๆหลายรายการ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในไทยคือ “The Voice” ทั้งนี้ “Devided” เป็นการผลิตรายการโดยบริษัท มีมิติ จำกัด ในกลุ่มแกรมมี่ จะเริ่มออกอากาศในวันที่ 20 ม.ค.2562
อย่างไรก็ตาม ช่องวัน ถือเป็นอีกช่องหนึ่ง ที่ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะใช้กลยุทธ์ละครรีรันแบบมาราธอนตลอด1-2ปีที่ผ่านมา ล่าสุดสำหรับปลายปีนี้ พร้อมนำเสนอละครรีรันมาราธอน2เรื่อง ระหว่าง 24-30 ธ.คนี้ คือ 1.พรหมไม่ได้ลิขิต เสลา 18.20น. เริ่มจันทร์24ธ.ค-ศุกร์ 28ธ.ค และเสาร์29ธ.ค-อาทิตย์ 30 ธ.ค เสลา 10.30น. 2.สงครามนักปั้น เวลา 20.30น. เริ่มจันทร์ที่ 24-อาทิตย์ที่30ธ.ค.นี้



***ปี62 ทีวีเมินรายได้โฆษณา ชูพันธมิตรเทิร์นคนดูสร้างรายได้
สมรภูมิการแข่งขันในปีหน้า(2562) ถึงแม้จะยังเหนื่อยและรุนแรงอยู่ แต่ในแง่ของการหารายได้แล้ว พบว่ามีหลายช่องเริ่มลดบทบาทที่จะพึ่งรายได้จากโฆษณาลง และมุ่งหาพันธมิตร เทิร์นคนดูออกมาเป็นรายได้เองแทน โดยเฉพาะทางบ้าน อาร์เอส กับการวาง ช่อง8ที่ผันช่องมาเป็นสื่อของตัวเองเพื่อซัพพรอตการขายสินค้าในธุรกิจค้าปลีกแทนเอ็นเตอร์เทนเม้นท์

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี2562 จึงถือเป็นยุคใหม่ของ 'RS' จากธุรกิจเพลง สู่ธุรกิจพานิชย์เต็มตัว ที่มีสื่อบันเทิงเป็นของตัวเอง ในการเป็นสื่อกลางในการสร้างรายได้จากธุรกิจพาณิชย์ ภายใต้แนวคิด มุ่งหารายได้ด้วยตัวเอง ลดการพึ่งพารายได้จากภายนอก และหารายได้จากฐานผู้ชมที่มีกว่า 13ล้านคน/วัน ที่ดูช่อง8 หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1-3.4 แสนคน/นาที ซึ่งมีกว่า 1.1 แสนคนที่เทิร์นจากคนดูเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าMPC แอกทีฟกว่า 70% การใช้จ่ายต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 2,000 บาท ซึ่งช่อง8ไม่ห่วง รายได้โฆษณาเพียง 1,000-1,500 ล้านบาท ถือว่าน้อยมากกับมูลค่ารวม 50,000-70,000 ล้านบาทในสื่อทีวี ยังไงก็ทำได้ เพียงหวังให้มู้ดของการใช้จ่ายกลับมาก็ดีเท่านั้น
ตามมาด้วยช่องสปริงนิวส์ช่อง19 ที่ทางทีวีไดเร็ค เจ้ามาถือหุ้นหลักเมื่อกลางปี2561ที่ผ่านมา โดยนายพงษ์ชัย ชัยมาตรกิจ หัวหน้างานสายสถานีโทรทัศน์ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า เดิมสปริงนิวส์ดิจิทัล ช่อง 19 เป็นช่องข่าวและสาระ ที่มีสัดส่วนรายการข่าวและสาระร่วม 70% ช่วงต้นปีทีวีไดเร็คเช่าเวลาออกอากาศรายการแนะนำสินค้าเพียง 1-2ชม.ต่อวัน ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากยอดขายโตต่อเนื่อง

จากที่ทีวีไดเร็คเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาช่อง19 ให้เป็นช่องทีวีดิจิทัลที่มีรายการนำเสนอสินค้าต่างๆที่หลากหลาย ควบคู่กับนำเสนอรายการข่าวสารที่มีสาระให้แก่ผู้ชม โดยเพิ่มการนำเสนอสินค้าที่มีคุณภาพที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการSMEsทั่วประเทศ เข้าถึงผู้บริโภคตอกย้ำความเป็นผู้นำโฮมช้อปปิ้ง หรือมีการปรับผังรายการใหม่ออกเป็น 1.ข่าว 6 ชม./วัน 2.ทีวีโปรแกรมหรือรายการสาระ 6 ชม/วัน .3.รายการโฮมช้อปปิ้ง 6 ชม./วัน และ 4.รายการทีวีช้อปปิ้ง 6 ชม./วัน ส่งผลให้หลังจากนี้รายได้หลักกว่า 90% จะมาจากการขายสินค้าผ่านรายการ และ 10% มาจากสปอตโฆษณา

แต่ที่มองข้ามไม่ได้ คือ ช่อง9เอ็มคอท แม้จะเป็นสื่อกึ่งของรัฐ แต่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ก็ต้องปรับตัวและทำรายได้ให้มีกำไรให้เป็นที่พอใจแก่รักลงทุนด้วย



ล่าสุดนายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงแผนการดำเนินงานปี62 ว่า พร้อมใช้งบ 700 ล้านบาท สำหรับลงทุนด้านคอนเทนต์ทั้งหมด โดยจะนำเสนอคอนเทนต์ที่แตกต่าง ไม่มีละคร เกมโชว์น้อยลง เพื่อรักษาฐานผู้ชมในสื่อทีวีไว้ให้ได้ รวมถึงให้ความสำคัญกับคอนเทนต์สำหรับผู้ชมออนไลน์ และพัฒนาคอนเทนต์ใหม่จากพาร์ทเนอร์ เพื่อเป็นรายได้ใหม่แทนรายได้สัมปทานที่จะหมดลงในปี63-64

โดยพาร์ทเนอร์หลักของช่อง9 คือ กลุ่ม SMEs กับการที่media partner ให้กับตลาดต่อยอด โดยที่ตลาดต่อยอดได้เสนอให้พื้นที่ 312 ตารางเมตร แก่ อสมท ในการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs มาเช่าพื้นที่ในโครงการตลาดต่อยอด ในขณะที่ อสมท จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยในการโปรโมต ประชาสัมพันธ์ธุรกิจ ร้านค้าของ SMEs และโครงการตลาดต่อยอดในเครือ ผ่านช่องทางของ อสมท ทั้งทีวี วิทยุ และสื่อออนไลน์ในมืออสมท ทั้งหมด ศึ่งสามารถต่อนอดนายได้ในอนาคต


***PPTVคู่แข่งที่น่ากลัวเพราะทุนหนา

ตบท้ายด้วยช่องPPTV ด้วยฐานทุนระดับหลายหมื่นล้านบาท จากกลุ่ม'ปราสาททองโอสถ' ช่องPPTV จึงเป็นช่องที่ไปต่อแบบชิลล์ๆ และจากปีนี้ที่ดึงผู้บริหารจากช่อง3 มากุมบังเหียน และดึงผู้บริหารช่อง7 มาดูผังรายการ โดยเฉพาะละคร ส่งผลให้ช่อง PPTV กลายเป็นช่องวาไรตี้ผสมผสานความเป็นช่อง3 ช่อง7 และคอนเทนต์กีฬาระดับโลกได้อย่างกลมกล่อม จัดเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับเจ้าตลาดอย่างแท้จริงในปี2562

นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทบางกอก มีเดีย บรอดคาสติ้ง จำกัด สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง36 เปิดเผยว่า พีพีทีวี ถือเป็นช่องทีวีดิจิทัล ที่อยู่ในกลุ่มเทียร์3 การที่เป็นเบอร์รองท้ายๆแต่มีความมั่นคงและมีความพร้อมในการลงทุนในการนำเสนอคอนเทนต์ระดับโลก ถือเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้เจ้าของคอนเท้นท์วางใจให้พีพีทีวีเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในไทย

โดยคอนเทนต์ที่ตามมาจากช่อง3 ไม่ว่าจะเป็น เดอะว้อยซ์, เดอะ เฟซ เมน และรายการกีฬาดัง รวมถึงวาไรตี้ กิ๊กดู๋ ที่มาซบอก พีพีทีวี เนื่องด้วยข้อเสนอที่เอื้อและต่อลมหายใจ เวลาที่ออกอากาศเป็นช่วงไพร์มไทม์ และจากไทม์แชร์ริ่งเป็นจ้างผลิต และทุนที่สามารถซัพพรอตได้ วาไรตี้ช่อง PPTV จึงมีความแจ็งแกร่งมากในปีหน้า(2562)

นอกจากนี้ตั้งแต่กลางปี2562 เป็นต้นไป พีพีทีวีพร้อมสตาร์ทละครชิงเรตติ้ง ซึ่งรายชื่อละครและนักแสดงนั้น ล้วนแต่คร่ำหอวอดในวงการออกมารับงานอิสระมากขึ้น กลิ่นอายช่องPPTV ที่เหมือนทั้งช่อง3และช่อง7นี้ จึงกลายเป็นจุดแข็งที่น่ากลัว ในสถานการณ์ที่ทั้ง2ช่อง กำลังสั่นคลนในเรื่องคอนเทนต์ขาดแคลน.





กำลังโหลดความคิดเห็น