“เอสเอ็มอีแบงก์” ลั่นพร้อมตรึงดอกเบี้ยเพื่อดูแลผู้ประกอบการรายเล็ก หลัง กนง. ขยับดอกเบี้ยขาขึ้น ปี 62 ตรียมเม็ดเงิน 60,000 ล้านบาท สนับสนุนผู้ประกอบการบุกตลาดออนไลน์ ด้าน “ธนิต โสรัตน์” ชี้ เงินเฟ้อไทยยังต่ำขึ้น ดบ. รับกระทบเอสเอ็มอี
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางดอกเบี้ยตลาดโลกในช่วงขาขึ้นนั้น ยอมรับว่า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกระทบกับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) แต่ในส่วนของธนาคารยืนยันจะพยายามตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุด เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอี
สำหรับปี 2562 มีแนวทางช่วยผู้ประกอบการ โดยเตรียมเม็ดเงิน 60,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอีรายย่อย ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 600,000 ราย โดยการให้สินเชื่อช่วยเหลือจะดำเนินการไปพร้อมกับการพัฒนาด้านความรู้ โดยเฉพาะสร้างความเข้มแข็งเอสเอ็มอีที่จะสามารถแข่งขันในยุคการค้าที่เปลี่ยนแพลตฟอร์มจากร้านทั่วไปมาจำหน่ายสินค้าระบบออนไลน์ ซึ่งจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขัน สามารถอยู่รอดประกอบธุรกิจและเติบโตได้ในอนาคต
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดนั้นส่วนตัวไม่เห็นด้วยเท่าใดนัก เนื่องจากแม้ว่าเหตุผลของการขึ้นดอกเบี้ยจะมาจากการที่ดอกเบี้ยชี้นำของไทยต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านแล้วของไทยยังต่ำอยู่ ซึ่งประเด็นที่ต้องติดตามผลกระทบที่น่าห่วง คือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
“ปกติธุรกิจเอสเอ็มอีอัตราดอกเบี้ยก็จะแพงกว่าปกติอยู่แล้วโดยเฉลี่ย ดังนั้น เมื่อต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยก็แบกภาระมากขึ้นและตลอดเวลาที่ผ่านมาก็จะเห็นว่าสถาบันการเงินต่างๆ เองเมื่อขึ้นดอกเบี้ยก็มักจะขยับแรง แต่ปัญหาใหญ่สุดเวลานี้ของเอสเอ็มอีคงจะไม่ใช่ดอกเบี้ยแพง แต่เชื่อว่า ส่วนหนึ่งเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้มากกว่า ซึ่งรัฐคงจะต้องพิจารณาจุดนี้ด้วย” นายธนิต กล่าว
