การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยามเรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน ได้แก่ สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, กรมเจ้าท่า, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย, สมาคมเรือไทย, โครงการความร่วมมือพันธมิตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา (BANGKOK RIVER PARTNER) และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2019” ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” ในวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ เวทีหลักที่ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม และกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา การจัดงานครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มรูปแบบที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์มหาปรากฏการณ์ งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้เป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก และมอบความสุขในเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรม AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 ว่า “การจัดงาน AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 นับเป็นกิจกรรมยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีซึ่ง ททท. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดสติเนชันที่มีความหลากหลายของประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการเดินทางของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ในช่วงเทศกาลสู่ทุกภูมิภาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยังเป็นการมอบของขวัญปีใหม่และส่งความสุขให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยในปีนี้ ททท. ได้กำหนดจัดกิจกรรมจำนวน 5 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งกรุงเทพมหานคร และ 4 เมืองรองอย่าง จังหวัดนครพนม, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดราชบุรี และ จังหวัดสตูล
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยามเรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด, บริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน ได้แก่ สมาคมการค้าธุรกิจในแม่น้ำเจ้าพระยา, กรมเจ้าท่า, ธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), ธนาคารกสิกรไทย, สมาคมเรือไทย, โครงการความร่วมมือพันธมิตรริมแม่น้ำเจ้าพระยา (BANGKOK RIVER PARTNER) และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร่วมจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ “Amazing Thailand Countdown 2019” ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” ในวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ณ เวทีหลักที่ ริเวอร์ พาร์ค ไอคอนสยาม และกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา การจัดงานครั้งนี้นับเป็นความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ ของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเต็มรูปแบบที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์มหาปรากฏการณ์ งานเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในสเกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาสายประวัติศาสตร์นี้เป็น NATIONAL ICONIC LANDMARK และจุดหมายปลายทางสำคัญของโลก และมอบความสุขในเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการจัดกิจกรรม AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 ว่า “การจัดงาน AMAZING THAILAND COUNTDOWN 2019 นับเป็นกิจกรรมยิ่งใหญ่ส่งท้ายปีซึ่ง ททท. จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเดสติเนชันที่มีความหลากหลายของประเทศไทย เพื่อประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางแห่งการเดินทางของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ในช่วงเทศกาลสู่ทุกภูมิภาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และยังเป็นการมอบของขวัญปีใหม่และส่งความสุขให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ โดยในปีนี้ ททท. ได้กำหนดจัดกิจกรรมจำนวน 5 พื้นที่ทั่วประเทศไทย ทั้งกรุงเทพมหานคร และ 4 เมืองรองอย่าง จังหวัดนครพนม, จังหวัดเชียงราย, จังหวัดราชบุรี และ จังหวัดสตูล
สำหรับการจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ททท. ร่วมกับ ไอคอนสยาม ตลอดจน องค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา วางแผนการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่สุดตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 ธันวาคม ศกนี้ ณ พื้นที่เวทีหลักที่ ริเวอร์พาร์คไอคอนสยามซึ่งพื้นที่บริเวณย่านนี้ถือว่ามีความหลากหลายของวิถีชีวิตของชุมชน วัฒนธรรม ที่สามารถมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ครบทุกมิติ
นอกจากนี้ ทั้งผู้ประกอบการริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ จะร่วมกันจัดกิจกรรม การแสดง แสง สี เสียง, การตกแต่ง ประดับประดาสถานที่, การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รวมทั้งการแสดงพลุ ยิ่งใหญ่สุดตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปี พ.ศ.2562 ซึ่งจะเป็นการจุดประกายความเรืองรองของสายน้ำเจ้าพระยาให้สว่างไสวในสายตาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตานานาประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังถือเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ททท. ได้วางแผนงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั้งในประเทศและสื่อต่างประเทศอย่างกว้างขวาง คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมากถึง 1 ล้านคน ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปีให้กับเมืองไทยได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับการจัดงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครนั้น ททท. ร่วมกับ ไอคอนสยาม ตลอดจน องค์กรพันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา วางแผนการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่สุดตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาใจกลางกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 31 ธันวาคม ศกนี้ ณ พื้นที่เวทีหลักที่ ริเวอร์พาร์คไอคอนสยามซึ่งพื้นที่บริเวณย่านนี้ถือว่ามีความหลากหลายของวิถีชีวิตของชุมชน วัฒนธรรม ที่สามารถมอบประสบการณ์ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ครบทุกมิติ
นอกจากนี้ ทั้งผู้ประกอบการริมแม่น้ำเจ้าพระยา โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวของทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำ จะร่วมกันจัดกิจกรรม การแสดง แสง สี เสียง, การตกแต่ง ประดับประดาสถานที่, การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี รวมทั้งการแสดงพลุ ยิ่งใหญ่สุดตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อเฉลิมฉลองการเข้าสู่ปี พ.ศ.2562 ซึ่งจะเป็นการจุดประกายความเรืองรองของสายน้ำเจ้าพระยาให้สว่างไสวในสายตาของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยสู่สายตานานาประเทศทั่วโลก
ทั้งนี้ ภาคการท่องเที่ยวยังถือเป็นฟันเฟืองสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจที่สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจำนวนมาก ททท. ได้วางแผนงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั้งในประเทศและสื่อต่างประเทศอย่างกว้างขวาง คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน เป็นจำนวนมากถึง 1 ล้านคน ซึ่งจะช่วยสร้างสีสันและบรรยากาศด้านการท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปีให้กับเมืองไทยได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ ททท. จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 รวม 5 พื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งในกรุงเทพฯที่ใช้พื้นที่ของไอคอนสยาม และใน 4 เมืองรอง เช่น จังหวัดนครพนม เชียงราย ราชบุรี และ สตูล คาดว่า ช่วงเทศกาลดังกล่าววันที่ 29 ธ.ค.61 - 1 ม.ค.62 จะมีเงินสะพัด 17,000 ล้านบาท จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งหมด 3.22 ล้านคน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 520,000 คน และนักท่องเที่ยวคนไทย 2.7 ล้านคน
ด้าน นายณรงค์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึง การจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2019 ว่า “ไอคอนสยาม มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ ททท. และพันธมิตรทุกภาคส่วนในการจัดงานนี้ขึ้น เพื่อร่วมเชิดชูแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปสู่สายตาชาวโลก ในฐานะที่ไอคอนสยามเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของประเทศไทย และ ททท. ได้เลือกให้ไอคอนสยามเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว เราจึงได้ประสานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการในพื้นที่ และชุมชน เตรียมการจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมสุดประทับใจ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีกิจกรรมไฮไลต์สำคัญที่ต้องจับตามอง ได้แก่
การแสดงพลุที่ทำจากข้าวเหนียวไทย นับเป็นการสร้างสรรค์พลุโดยใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์เรื่องราวของแม่น้ำเจ้าพระยา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต อารยธรรมและตำนานของความเป็นสยามประเทศจำนวนทั้งสิ้น 5 องก์ ความยาวประมาณ 5 นาที ประกอบด้วย
· องก์ที่ 1 - สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองอันเป็นนิรันดร์ (The River of Prosperity) นำเสนอพลุสีเงิน ทอง และนาก ที่เรียงต่อเป็นแนวเดียวกัน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองมั่งคั่งตามความเชื่อของทั้งชาวไทย และชาวโลก จึงเป็นการเริ่มต้นวินาทีแรกของศักราชใหม่ เพื่อจะฉาบให้ลำน้ำเจ้าพระยาเรืองรองสุกสว่าง เป็นแม่น้ำที่จะอยู่คู่ชีวิตอันร่มเย็น และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ดังเช่นที่เคยเป็นมาเสมอ
· องก์ที่ 2 - มณีแห่งสยาม (The Siam Treasure) นำเสนอผ่านพลุที่มีรูปแบบและสีสันอันงดงามสะท้อนภาพของอารยธรรมไทยที่มีความสัมพันธ์กับแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงทุกมิติของชีวิตคนไทยเข้าไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีพและสัญจรของคนริมสองฝั่ง แต่ยังเป็นเส้นทางเดินเรือของคณะทูตที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี, เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าเพื่อการค้าขายตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน, เป็นลำน้ำที่ใช้ประกอบพิธีกรรมในประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ และเป็นเส้นทางสัญจรไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามริมสองฝั่ง ที่นำรายได้มาสู่ประเทศ
· องก์ที่ 3 - บุปผชาติแห่งผืนน้ำ (The Blossom of Joy) นำเสนอพลุที่สร้างความสนุกสนานที่หลากหลายรูปแบบ สีสันนานา ประกอบเพลงจังหวะสนุกแบบไทย สะท้อน เอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่เป็นที่หลงใหลของคนทั่วโลก คือ ความสนุกสนาน อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อมาเยือนประเทศไทย ก็จะได้รับรอยยิ้มกลับไปเสมอ ให้สมกับความสุขในวันปีใหม่และการเริ่มศักราชใหม่ริมแม่น้ำสายหลักของไทย
องก์ที่ 4 - สันติภาพบนผืนโลก (One World) เป็นพลุสีธงชาติของทุกประเทศบนโลก แสดงถึง ความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกันทั่วโลกผ่านการท่องเที่ยว การค้า การศึกษา เรียนรู้และแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของความเสมอภาค และเป็นการเริ่มต้นปีด้วยความสัมพันธ์อันดีงามที่จะยั่งยืนตลอดไป
· องก์ที่ 5 - รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย (Thailand) พลุสีธงชาติไทย สร้างขึ้นเป็นธงไตรรงค์ผืนใหญ่ตลอดโค้งน้ำ ด้วยสีแดง ขาว น้ำเงิน สะท้อนถึงสิ่งที่ทำให้ไทยยังคงเป็นชาติมาจนปัจจุบัน ก็คือ ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นการแสดงพลังสามัคคีของชาวไทย
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ ททท. จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2562 รวม 5 พื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งในกรุงเทพฯที่ใช้พื้นที่ของไอคอนสยาม และใน 4 เมืองรอง เช่น จังหวัดนครพนม เชียงราย ราชบุรี และ สตูล คาดว่า ช่วงเทศกาลดังกล่าววันที่ 29 ธ.ค.61 - 1 ม.ค.62 จะมีเงินสะพัด 17,000 ล้านบาท จากการเดินทางของนักท่องเที่ยวทั้งหมด 3.22 ล้านคน แบ่งเป็น นักท่องเที่ยวต่างชาติ 520,000 คน และนักท่องเที่ยวคนไทย 2.7 ล้านคน
ด้าน นายณรงค์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัท ดิ ไอคอนสยาม ซูเปอร์ลักซ์ เรสซิเดนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวถึง การจัดงาน Amazing Thailand Countdown 2019 ว่า “ไอคอนสยาม มีความภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับ ททท. และพันธมิตรทุกภาคส่วนในการจัดงานนี้ขึ้น เพื่อร่วมเชิดชูแม่น้ำเจ้าพระยาออกไปสู่สายตาชาวโลก ในฐานะที่ไอคอนสยามเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของประเทศไทย และ ททท. ได้เลือกให้ไอคอนสยามเป็นสถานที่จัดงานดังกล่าว เราจึงได้ประสานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการในพื้นที่ และชุมชน เตรียมการจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่ ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมสุดประทับใจ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีกิจกรรมไฮไลต์สำคัญที่ต้องจับตามอง ได้แก่
การแสดงพลุที่ทำจากข้าวเหนียวไทย นับเป็นการสร้างสรรค์พลุโดยใช้นวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “แม่น้ำแห่งความรุ่งเรือง” ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์เรื่องราวของแม่น้ำเจ้าพระยา สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิต อารยธรรมและตำนานของความเป็นสยามประเทศจำนวนทั้งสิ้น 5 องก์ ความยาวประมาณ 5 นาที ประกอบด้วย
· องก์ที่ 1 - สัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองอันเป็นนิรันดร์ (The River of Prosperity) นำเสนอพลุสีเงิน ทอง และนาก ที่เรียงต่อเป็นแนวเดียวกัน ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรืองมั่งคั่งตามความเชื่อของทั้งชาวไทย และชาวโลก จึงเป็นการเริ่มต้นวินาทีแรกของศักราชใหม่ เพื่อจะฉาบให้ลำน้ำเจ้าพระยาเรืองรองสุกสว่าง เป็นแม่น้ำที่จะอยู่คู่ชีวิตอันร่มเย็น และนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ประเทศไทย ดังเช่นที่เคยเป็นมาเสมอ
· องก์ที่ 2 - มณีแห่งสยาม (The Siam Treasure) นำเสนอผ่านพลุที่มีรูปแบบและสีสันอันงดงามสะท้อนภาพของอารยธรรมไทยที่มีความสัมพันธ์กับแม่น้ำเจ้าพระยา เชื่อมโยงทุกมิติของชีวิตคนไทยเข้าไว้ด้วยกัน ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีพและสัญจรของคนริมสองฝั่ง แต่ยังเป็นเส้นทางเดินเรือของคณะทูตที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรี, เป็นเส้นทางเดินเรือขนส่งสินค้าเพื่อการค้าขายตั้งแต่สมัยอยุธยาจนถึงปัจจุบัน, เป็นลำน้ำที่ใช้ประกอบพิธีกรรมในประเพณีที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและความเชื่อ และเป็นเส้นทางสัญจรไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงามริมสองฝั่ง ที่นำรายได้มาสู่ประเทศ
· องก์ที่ 3 - บุปผชาติแห่งผืนน้ำ (The Blossom of Joy) นำเสนอพลุที่สร้างความสนุกสนานที่หลากหลายรูปแบบ สีสันนานา ประกอบเพลงจังหวะสนุกแบบไทย สะท้อน เอกลักษณ์ของความเป็นไทยที่เป็นที่หลงใหลของคนทั่วโลก คือ ความสนุกสนาน อารมณ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อมาเยือนประเทศไทย ก็จะได้รับรอยยิ้มกลับไปเสมอ ให้สมกับความสุขในวันปีใหม่และการเริ่มศักราชใหม่ริมแม่น้ำสายหลักของไทย
องก์ที่ 4 - สันติภาพบนผืนโลก (One World) เป็นพลุสีธงชาติของทุกประเทศบนโลก แสดงถึง ความเชื่อมโยง เกี่ยวพันกันทั่วโลกผ่านการท่องเที่ยว การค้า การศึกษา เรียนรู้และแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของความเสมอภาค และเป็นการเริ่มต้นปีด้วยความสัมพันธ์อันดีงามที่จะยั่งยืนตลอดไป
· องก์ที่ 5 - รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย (Thailand) พลุสีธงชาติไทย สร้างขึ้นเป็นธงไตรรงค์ผืนใหญ่ตลอดโค้งน้ำ ด้วยสีแดง ขาว น้ำเงิน สะท้อนถึงสิ่งที่ทำให้ไทยยังคงเป็นชาติมาจนปัจจุบัน ก็คือ ความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เป็นการแสดงพลังสามัคคีของชาวไทย
สำหรับความยิ่งใหญ่ของพลุทั้ง 5 องก์นี้ จะเกิดขึ้นบนผืนแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเรือเป็นจุดยิงพลุทั้งสิ้น 5 จุด โอบรอบโค้งน้ำ ทำให้การแสดงพลุสามารถมองเห็นได้เป็นระยะทางกว่า 1,400 เมตร ซึ่งถือเป็นการแสดงพลุที่มีระยะทางยาวที่สุดเท่าที่เคยมีมาของการแสดงพลุบนแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังครอบคลุมพื้นที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่จากโรงแรมเพนนินซูล่า, โรงแรมมิลเลนเนียล ฮิลตัน, โรงแรมแชงกรี-ลา, โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล และ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน นอกจากนั้น ยังสามารถรับชมการแสดงพลุครั้งประวัติศาสตร์นี้ได้จากพื้นที่ต่างๆ อีกมากมาย เช่น สะพานสาธร, สวนเฉลิมพระเกียรติ, ท่าเรือสาธร, สถานีตำรวจน้ำ 2, ท่าเรือคลองสาน, ลานจอดรถสำเพ็ง, CAT สาขาบางรัก, ท่าเรือวัดสุวรรณ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ล้ง 1919 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชมพลุนี้มากกว่า 1 ล้านคน ในรัศมี 2 กิโลเมตร
ยิ่งกว่านั้น เพื่อเป็นการร่วมเชิดชู การแสดงโขนของไทย ในโอกาสที่องค์การยูเนสโก ประกาศยกย่องรับรอง “โขน” เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันจับต้องไม่ได้ เป็นการแสดงแห่งมวลมนุษยชาติ จึงได้จัดการแสดงโขนชุด “ยกรบ” เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทย โดยเป็นการแสดงโขนชุดที่ยิ่งใหญ่อลังการ ด้วยจำนวนของนักแสดงโขน และองค์ประกอบ มีรายละเอียดตามขนบของการแสดงโขนตามแบบแผนนาฏศิลป์ไทย อาทิ เครื่องแต่งกายของการออกสู้รบ พร้อมทั้งอาวุธของแต่ละฝ่าย การจัดกองทัพของพระราม และทศกัณฐ์ ซึ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมทางภูมิปัญญาของไทยอันล้ำค่า และยิ่งใหญ่ที่จะสร้างความประทับใจ และตรึงตราต่อผู้ชม
ส่วนการแสดงสดจากศิลปินไทยและต่างประเทศชั้นนำเพื่อมอบความสุขในเทศกาลปีใหม่ให้แก่คนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนั้น จะมีขึ้นบนเวทีริเวอร์พาร์ค ที่สามารถรองรับแขกผู้มีเกียรติได้สูงถึง 4,000 คน และ มีศิลปินเข้าร่วมมากมายไม่ว่าจะเป็น ต้น ธนษิต, เอม สาธิดา และโบ๊ท สิริโรจน์ ศิลปินจากทรู AF, ไอซ์ และศิร์ภูมิ จาก THE VOICE, ฮั่น เดอะสตาร์, เกล โสพิชา , แกงส้ม เดอะสตาร์, ริท เดอะสตาร์, แก้ม วิชญาณี, กันต์ นภัทร, ตงตง, ไบร์ท, เซิน และแฟรงค์ จากค่ายจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 9 MCOT, PPTV, True4U, TNN และ Thai PBS ในวันที่ 31 ธันวาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 23.05 น. เป็นต้นไป
นายณรงค์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายมีผู้ร่วมงาน 1 ล้านคนในรัศมีใกล้เคียง 2 กม. นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค. ทางห้างไอคอนสยามได้เตรียมแคมเปญพิเศษเอาใจนักช้อปด้วยสินค้าลดราคาสูงสุด 70% ตั้งเป้าหมายมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในห้าง 200,000-250,000 คน ในช่วงวันดังกล่าว