ปตท.น้ำมันและการค้าปลีกแย้มศึกษาความเป็นไปได้ในการทำตลาดก๊าซหุงต้มครัวเรือนและอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) หลังรัฐบาลไทยมีนโยบายให้ราคาก๊าซหุงต้มในครัวเรือนสะท้อนราคาตลาดโลกมากขึ้น ช่วยลดปัญหาลักลอบนำก๊าซหุงต้มเข้าไปขายตามตะเข็บชายแดน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจก๊าซหุงต้มหรือแอลพีจีจำหน่ายภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้าน (CLMV) ทั้งลาว กัมพูชา และพม่าก่อน ส่วนประเทศเวียดนามคงต้องรออีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ สนใจที่จะเข้าไปทำธุรกิจก๊าซหุงต้มทั้งในส่วนภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรมในประเทศเพื่อนบ้านนั้นสืบเนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซหุงต้มในประเทศ CLMV มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อีกทั้งนโยบายรัฐไทยที่ปล่อยให้ราคาก๊าซหุงต้มในประเทศสะท้อนกลไกตลาดโลกจากเดิมที่เคยควบคุมราคาขายไว้ จนเกิดการลักลอบนำก๊าซหุงต้มบรรจุถังจากไทยไปจำหน่ายตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้านเพราะมีราคาถูกกว่าราคาก๊าซหุงต้มในประเทศ
ดังนั้น การเข้าไปศึกษาตลาดแอลพีจีในประเทศเพื่อนบ้านคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีหน้า ส่วนจะหาพันธมิตรท้องถิ่นในการร่วมลงทุนหรือไม่นั้นยังไม่มีความชัดเจน แต่ทั้งนี้บริษัทฯ ก็มีบริษัทย่อยที่จดทะเบียนในประเทศเพื่อนบ้านเป็นหัวหอกในการศึกษาและพร้อมทำตลาดอยู่แล้ว ซึ่งการลงทุนจะต้องมีการตั้งโรงบรรจุก๊าซฯ และถังก๊าซฯ รวมทั้งดีลเลอร์ร้านค้าก๊าซฯ ด้วย
ก่อนหน้านี้ ทาง ปตท.เคยได้ร่วมทุนกับรัฐวิสาหกิจเวียดนามคือปิโตรเวียดนามในการทำตลาด LPG ครัวเรือน ภายใต้บริษัทเวียดนามแอลพีจี แต่สุดท้ายต้องถอนตัวออกมา โดยขายหุ้นที่ถือทั้งหมดให้กับทางปิโตรเวียดนามไป