ผู้จัดการรายวัน 360 - “แม็คกรุ๊ป” ขยายบทบาทสู่การเป็นรีเทลเซอร์วิส ให้บริการบริหารจัดการสินค้าให้กับคู่ค้า ซื้อกิจการแม็คมิลเลียนทำลอจิสติกส์ ผนึกพันธมิตรหลากหลายเพื่อแตกไลน์ พร้อมลุยมาร์เกตเพลซ จับมือสยามโกลบอลเฮาส์ ปั๊ม ปตท.ผุดช่องทางใหม่ๆ
นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม็คกรุ๊ปอยู่ในช่วงของการขยายธุรกิจใหม่ๆ และปรับบทบาทใหม่ให้เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจแบบรีเทลเซอร์วิส (retail Service) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งเป็นการสร้างความยั่งยืนและการเติบโตให้กับองค์กรและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วย จากเดิมที่เราเป็นเพียงผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าเท่านั้น
บทบาทการเป็นรีเทลเซอร์วิส คือการให้บริการด้านการบริหารจัดการ การเป็นที่ปรึกษา การจำหน่าย การขนส่งและการบริหารคลังสินค้าให้กับคู่ค้าด้วย โดยใช้อินฟราสตรักเจอร์ที่เรามีอยู่ทั้งหมด และที่มีการขยายต่อเนื่อง ช่องทางจำหน่ายที่เรามีอยู่กว่า 900 จุดขายทั่วประเทศ รวมทั้งประสบการณ์และโนว์ฮาวที่เราทำแม็คมานานกว่า 40 ปี
ล่าสุดไม่นานมานี้แม็คกรุ๊ปเพิ่งได้บรรลุข้อตกลงและเข้าทำการซื้อกิจการและเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไปแล้ว ในบริษัท แม็ค มิลเลียน ประเทศไทย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับลอจิสติกส์การขนส่ง กระจายสินค้าให้กับสินค้าต่างๆ การซื้อกิจการดังกล่าวเข้ามาเพื่อทำให้แม็คมีระบบการขนส่งและลอจิสติกส์ที่แข็งแกร่งขึ้น
นอกจากนั้นยังได้ขยายธุรกิจด้วยการเป็นมาร์เกตเพลซด้วย เพื่อรองรับตลาดอีคอมเมิร์ซที่มาแรงและเติบโตเร็วมาก โดยบริษัทมีการพัฒนาเว็บไซต์ที่จำหน่ายสินค้าของเราเองและเปิดกว้างรับพันธมิตรเข้ามาจำหน่ายด้วย เช่น พันธมิตรในช่วงแรกนี้คือ กระเป๋าแบรนด์อะเนลโล สินค้าความงามบางส่วนจากบิวตี้บุฟเฟต์ แว่นตาอินเตอร์แบรนด์รายหนึ่ง เป็นต้น ซึ่งปีหน้าก็มีทีมงานที่จะเริ่มเจาะตลาดส่วนนี้อย่างเต็มที่
“ยอดขายในเว็บไซต์ของเราเองเมื่อปีที่แล้วมีประมาณ 40 กว่าล้านบาท ซึ่งมีเฉพาะสินค้าของเราเท่านั้น แต่ล่าสุดปีนี้ยอดขายคาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทแล้ว เติบโตเร็วมาก” นายบัณฑิตกล่าว
ขณะเดียวกัน เราได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรมากขึ้น เช่น สยามโกลบอลเฮาส์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน โดยการนำสินค้าของเราเข้าไปวางจำหน่ายในศูนย์ฯ ดังกล่าว เริ่มแล้ว 2 สาขา เช่น ในเชียงใหม่ และปีหน้าจะขยายต่อเนื่อง ซึ่งสยามโกลบอลเฮาส์มีประมาณ 50 กว่าสาขาทั่วประเทศ
นอกจากนั้นก็มีเอาต์เลตของเราเองในปั๊มน้ำมัน ปตท. ตอนนี้มี 18 แห่ง จะเปิดอีกประมาณ 20 แห่งในปีหน้า โดยรายได้จากช่องทางเอาต์เลตมีประมาณ 100 ล้านบาทในปีนี้
นายบัณฑิตกล่าวว่า ปัจจุบันแม็คกรุ๊ปมีจุดขายที่เป็นของบริษัทฯ เองประมาณ 900 กว่าจุดขายทั่วประเทศ ทำให้เราสามารถเข้าถึงลูกค้ามากที่สุดเป็นอย่างดี และยังรู้ถึงพฤติกรรมผู้บริโภคทุกพื้นที่ด้วย และการที่ขยายพันธมิตรเพิ่มในลักษณะรีเทลเซอร์วิส ทำให้เรามีศักยภาพและความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับผลประกอบการปี 2561 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโตประมาณ 5% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวมประมาณ 4,000 กว่าล้านบาทต้นๆ โดยแต่ละปีจะมีการลงทุนปกติเฉลี่ย 100 ล้านบาท