“อัศวิน” ลั่นเจรจา BTS สัญญาสัมปทานเดินรถสายสีเขียวทั้งระบบ ค่าโดยสารไม่เกิน 65 บาท รับหนี้แสนล. ชำระครบใน 10 ปีแรก จากนั้นต้องแบ่งผลตอบแทนให้ กทม. เร่งชง กก.PPP อนุมัติ คู่ขนาน ตั้งเป้าสรุปทำสัมปทานใหม่ ใน เม.ย. 62
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง ว่าด้วยการจำหน่ายทรัพย์สินและโอนภาระทางการเงิน โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2558 ที่มอบหมายให้ กทม.เป็นผู้บริหารจัดการเดินรถโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งจะมีการจำหน่ายทรัพย์สินและที่ดินของโครงการ การโอนภาระทางการเงินของโครงการ และภาระผูกพันกับหน่วยงานอื่นให้กับ กทม. นอกจากนี้ยังครอบคลุมถึงการยกเว้นค่าแรกเข้าระบบ หากผู้โดยสารเปลี่ยนถ่ายจากรถไฟฟ้าสายอื่นของ รฟม. ตามนโยบายของรัฐบาลอีกด้วย
โดยเบื้องต้นค่าก่อสร้างงานโยธาของสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ วงเงิน 23,319.40 ล้านบาท รฟม.ได้เริ่มดำเนินงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จในปี 2559 และเปิดให้บริการเดินรถได้ช่วง 1 สถานี จากสถานีแบริ่ง-สำโรง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 และปัจจุบันมีความพร้อมในการเปิดเดินรถครบทุกสถานี โดยจะเปิดทดลองเดินรถตั้งแต่สถานีสำโรงถึงสถานีเคหะฯ ในวันที่ 6 ธ.ค. 2561 ส่วนช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต วงเงิน 40,608.38 ล้านบาท รฟม.อยู่ระหว่างก่อสร้าง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ขณะนี้ กทม.ได้เจรจากับบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS อย่างไม่เป็นทางการ เรื่องการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้และเหนือ ซึ่ง BTS ยอมรับในหลักการ เงื่อนไขในการรับชำระหนี้ค่าก่อสร้างกว่า 5 หมื่นล้านบาท ค่าระบบอาณัติสัญญากว่า 2 หมื่นล้านบาท และดอกเบี้ย มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 1 แสนล้านบาท โดยให้ชำระหนี้สินต่อกระทรวงการคลังให้เรียบร้อยในช่วง 10 ปีแรก ขณะที่กำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งเส้นทางหลักและส่วนต่อขยายทั้งหมด สูงสุดไม่เกิน 65 บาท หากไม่เอาก็ไม่ต้องทำ เป็นไปตามหลักการสัญญาร่วมทุน (PPP) ซึ่ง กทม.ได้ศึกษารูปแบบการร่วมทุนไว้ ส่วนปีที่ 11 เป็นต้นไป หรือจนถึงปี 2585 ซึ่งจะครบระยะเวลาสัมปทาน BTS จะต้องจ่ายผลตอบแทนให้ กทม.ซึ่งทาง BTS อยู่ระหว่างการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่เจรจากับ BTS กทม.อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอน การร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน (PPP) ตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) โดยเตรียมเสนอคณะกรรมการ PPP หาก BTS ไม่รับเงื่อนไข กทม.ยังมีแนวทางเปิดประมูลซึ่งจะเปิดกว้างให้เอกชนทุกรายเข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งจะใช้เงื่อนไขเดียวกับที่เจรจากับ BTS
ทั้งนี้ ในเรื่องการเจรจากับ BTS และกรณีที่จะเปิด PPP ทั่วไปจะพยายามดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวใต้ อย่างเป็นทางการเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะเริ่มจัดเก็บค่าโดยสารตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2562 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา