การบินไทยสรุปแผนจัดหาเครื่องบินชง ครม. ธ.ค.นี้ “สุเมธ” เผยปี 62 อาจต้องมีเช่าบางส่วนมาเสริมก่อน เหตุเครื่องจอดเสียมากหวั่นกระทบบริการ เผยฝูงบินเก่า มีน้อย ทำตลาดหายไป 10% ตั้งเป้าธุรกิจ 3-5 ปีเพิ่มฝูงบิน 125 ลำชิงส่วนแบ่งการตลาดคืน จับมือ “สปริงแอร์ไลน์” โลว์คอสต์รายใหญ่ในจีน ช่วยดึงนักท่องเทียวจีนเข้าไทยช่วงไฮซีซัน
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จะสรุปแผนฟื้นฟู และแผนจัดหาเครื่องบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่าเพื่อเสนอคณะกรรมการ (บอร์ด) การบินไทยในการประชุมวันที่ 26 พ.ย. จากนั้นจะสรุปกรอบของแผนจัดหาเครื่องบินเพื่อเสนอสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือน ธ.ค. 2561 เพื่ออนุมัติกรอบและงบลงทุนก่อน จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการจัดหาต่อไปเพื่อให้มีเครื่องบินใหม่เข้ามาภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ การบินไทยมีเป้าหมายภายใน 3 ปีจะต้องมีส่วนแบ่งการตลาดที่ 3% จากการประเมินหากต้องการรักษาเป้าหมายนี้จะต้องมีฝูงบินที่ไม่น้อยกว่า 125 ลำ จากปัจจุบันที่มีฝูงบินประมาณ 100 ลำ ซึ่งจะต้องมีการจัดหาเครื่องใหม่ทดแทนเครื่องเก่า และมีเพิ่มเติมฝูงบินด้วย ไม่เช่นนั้นการเติบโตจะหดตัว
“ที่ผ่านมาการบินไทยไม่มีเครื่องบินใหม่ ขณะที่เครื่องบินบางส่วนต้องซ่อมบำรุง ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาส่วนแบ่งตลาด (Market Share) หายไป 10% ในขณะที่ตลาดการบินมีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้น การบินไทยต้องวางแผนให้ดี การซื้อเครื่องบินใหม่เป็นภารกิจของผู้บริหารของดีดีการบินไทย อย่ามองว่ามีดีดีใหม่ก็เข้ามาซื้อ การไม่ขยายฝูงบินเท่ากับทำร้ายตัวเองเพราะตลาดจะหายไปเรื่อยๆ ในขณะที่คู่แข่งซื้อกันหมด” นายสุเมธกล่าว
ในปี 2562 การบินไทยจะอยู่ในภาวะที่ไม่มีเครื่องบินใหม่เข้ามาเสริมฝูงบิน ประกอบกับเครื่องบินที่อยู่เดิมต้องซ่อมบำรุงไปด้วย ดังนั้นจะต้องหาทางมีเครื่องบินใหม่เข้ามาให้บริการเพื่อคงสภาพการตลาดไว้ให้ได้ เช่น อาจใช้วิธีการเช่าใช้ เป็นต้น นอกจากนี้ จะต้องวางแผนในการปลดระวางเครื่องบินเก่าซึ่งอาจจะต้องยืดระยะเวลาออกไป เพราะหากปลดระวางเร็วเกินไปจะทำให้เครื่องบินไม่พอในการให้บริการได้ เพราะตอนนี้เครื่องบินต้องเข้ารับการซ่อมบำรุงค่อนข้างมาก
“เครื่องอยู่การซ่อมบำรุงมาก เพราะที่ผ่านมาเครื่องน้อย ต้องหมุนเวียนการใช้อย่างหนัก มีระยะเวลาในการใช้ประโยชน์เครื่องบินประมาณ 12 ชม. (Aircraft Utilization ) ยิ่งช่วงไฮซีซันเครื่องต้องหมุนมากขึ้น แต่จำนวนเครื่องบินมีน้อย เป็นความยากลำบากของธุรกิจการบิน”
ทั้งนี้ ตามแผนเดิมการบินไทยจะจัดหาเครื่องบินใหม่ 23 ลำ วงเงินประมาณ 1 แสนล้านบาท
สำหรับแผนการตลาดช่วงไฮซีซัน การบินไทยได้ร่วมมือกับสายการบินสปริงแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใหญ่ที่สุดในจีน ในการขนส่งนักท่องเทียวจีนเข้าไทย เป้าหมายในระยะ 3 เดือน (เดือน ธ.ค. 61-ก.พ. 62 หรือช่วงตรุษจีน) โดยการบินไทยสามารถนำนักท่องเที่ยวบินต่อไปยังยุโรป ออสเตรเลีย ขณะที่จะร่วมกับสายการบินไทยสมายล์และสายการบินไทยแอร์เอเชียในการส่งต่อนักท่องเที่ยวจีนไปยังเมืองรอง สนับสนุนนโยบายรัฐบาล และสอดคล้องกับมาตรการฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจีนของการบินไทยลดลงไป 10% แต่เชื่อว่าความร่วมมือกับสปริงแอร์ไลน์จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมา ซึ่งขณะนี้อัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ 78% และคาดว่า Cabin Factor ทั้งปี 61 นี้จะไม่ต่ำกว่า 80%