xs
xsm
sm
md
lg

ปตท.สผ.ยื่นประมูลปิโตรเลียม 2 แหล่งใน ตปท. ตั้งเป้าปีหน้าปริมาณขาย 3.2 แสนบาร์เรล/วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปตท.สผ.ตั้งเป้ายอดขายปิโตรเลียมปีหน้า 3.2 แสนบาร์เรล/วัน โตขึ้นเล็กน้อยจากปีนี้ที่ 3.1 แสนบาร์เรล/วัน แย้มร่วมชิงประมูลโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม 2 แหล่งที่ยูเออี และมาเลเซีย คาดสรุปผลต้นปีหน้า

นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. เปิดเผยว่าใน 2562 บริษัทฯ วางแผนเชิงรุกกำหนดแผนเจาะสำรวจปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น 9 หลุมในพม่า  และมาเลเซีย จากปีนี้ที่เจาะหลุมสำรวจเพิ่มเพียง 1 หลุม หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงและมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยประเมินแนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2562 เฉลี่ยบาร์เรลละ 70 เหรียญสหรัฐบวก/ลบ

ในปีหน้าบริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 3.2 แสนบาร์เรล/วัน สูงกว่าปีนี้ที่มีการขายปิโตรเลียมเฉลี่ย 3.1 แสนบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากการเข้าซื้อหุ้นเพิ่มอีก 22.2222% ในแหล่งบงกชได้เต็มปี และการเพิ่มกำลังการผลิตแหล่ง S1 จากเฉลี่ย 2.7 หมื่นบาร์เรล/วัน เป็น 3 หมื่นบาร์เรล/วัน ในปี 2562 ขณะที่ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยในปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 31-32 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากปีนี้เฉลี่ย 30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

นายพงศธรกล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ยังมองโอกาสในการควบรวมซื้อกิจการ (M&A) กลุ่มประเทศเป้าหมายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งไทย พม่า มาเลเซีย และแถบตะวันออกกลางที่เป็นประเทศต้นทุนการผลิตต่ำ ซึ่งขณะนี้ตลาดซื้อขายแหล่งปิโตรเลียมเปิดหลังราคาน้ำมันได้ขยับเพิ่มขึ้น ทำให้มีการตัดสินใจซื้อขายหุ้นในแหล่งปิโตรเลียมได้ง่ายขึ้น โดยบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาอยู่ 2 โครงการ รวมทั้งได้ยื่นได้ประมูลโครงการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมใน 2 แปลง ทั้งในมาเลเซีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) คาดว่าจะทราบผลการประมูลในต้นปี 2562

ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสกลับไปลงทุนในประเทศโอมานอีกครั้ง หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทพลาดไม่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลแหล่งปิโตรเลียม

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) จำนวน 4 โครงการในปีหน้า ได้แก่ โครงการโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการทำสัญญาซื้อขายก๊าซแอลเอ็นจีแล้ว 1.5 ล้านตัน และส่วนที่มีการลงนามข้อตกลงเบื้องต้นในการซื้อขาย (HOA) ประมาณ 10 ล้านตัน คาดว่าโครงการดังกล่าวจะ FID ได้ในกลางปีหน้า,  โครงการแอลจีเรีย ฮาสสิเบอร์ลาเคซ, โครงการคอนแทรกต์ 4 แหล่งอุบล และโครงการ Southwest Vietnam (โครงการเวียดนามบี และ 48/95 และโครงการเวียดนาม 52/9)

ขณะที่โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ที่แคนาดา บริษัทฯ อยู่ระหว่างการทบทวนการลงทุนเพื่อหาผู้ซื้อโครงการดังกล่าวอ เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูง รวมทั้งโครงการแคช เมเปิล ที่ออสเตรเลีย อยู่ระหว่างการพิจารณาหาพันธมิตรร่วมทุนหรือขายออกไป เนื่องจากออสเตรเลียมีกฎระเบียบที่เข้มงวดมากทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยสูง

ส่วนการเข้าไปลงทุนโครงการผลิตน้ำมันและก๊าซจากชั้นหินดินดาน (Shale Oil & Shale Gas) ในสหรัฐฯ บริษัทฯ คงไม่เข้าไปลงทุนเนื่องจากไม่สอดคล้องกลยุทธ์การทำธุรกิจ เพราะต้องลงทุนผ่านกองทุนฯ ไม่ได้เข้าไปบริหารจัดการในโครงการ Shale Oil & Gas ได้เอง

สำหรับการยื่นเข้าร่วมประมูลแหล่งเอราวัณ และบงกช ที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2565-2566 นั้น บริษัทฯ มั่นใจว่าสิ่งที่เสนอให้รัฐเป็นประโยชน์สูงสุดและมั่นใจว่าจะได้รับเลือกให้เป็นชนะประมูล คาดว่าจะทราบผลประมูลได้ในเดือนธันวาคมนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น