กทท.เผยเกณฑตัดสินแหลมฉบังเฟส 3 สูง เหตุต้องการมาตรฐานและมืออาชีพ พอใจเอกชนไทย-เทศซื้อซองเป็นระดับแนวหน้า เผยล่าสุดตัดเนื้องานไม่จำเป็น หั่นงบโครงสร้างพื้นฐานจาก 4.9 หมื่นล้านเหลือ 4 หมื่นล้าน ยันไม่กระทบคุณภาพ คาดเปิดประมูลได้ผู้รับเหมา เม.ย. 62
ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ตามที่ท่าเรือแหลมฉบังได้ประกาศเชิญชวนและขายเอกสารคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 5 พ.ย.-19 พ.ย. 2561 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างชาติที่มาซื้อเอกสารในครั้งนี้จำนวน 32 ราย โดยเอกสารชุดละ 535,000 บาท คิดเป็นเงินกว่า 16 ล้านบาทเศษ
ถือว่าได้รับความสนใจจากเอกชน นักลงทุนอย่างมาก ซึ่งนักลงทุนที่ซื้อเอกสารไปมีหลายกลุ่ม ทั้งผู้ประกอบการท่าเรือต่างประเทศ ผู้ประกอบการที่ท่าเรือแหลมฉบัง กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น และมีทั้งเอกชนไทย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง จีน อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์
โดยต้องยื่นข้อเสนอรวม 5 ซอง ได้แก่ ซองที่ 1 เป็นเอกสารมอบอำนาจ, หลักฐานการซื้อเอกสารประมูล, หลักประกันซอง เป็นต้น
ซองที่ 2 (ข้อเสนอด้านคุณสมบัติ) ซองที่ 3 (ข้อเสนอด้านเทคนิคและแผนการลงทุนในโครงการ) ซองที่ 4 (ข้อเสนอด้านผลประโยชน์ตอบแทน) ซองที่ 5 (ข้อเสนอแนะในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงการ)
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาข้อเสนอซอง ที่1 จะตรวจสอบความครบถ้วนและถูกต้องจึงจะผ่านการพิจารณา และเข้าสู่การพิจารณาซองที่ 2 ด้านคุณสมบัติทั่วไป โดยประเมินแบบผ่าน/ไม่ผ่านตามเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อเปิดข้อเสนอซองที่ 3 ซึ่งจะประเมินแบบให้คะแนน มี 7 หมวดหมู่ โดยจะต้องได้คะแนนแต่ละหมวดอย่างน้อย 70% และคะแนนรวมทุกหมวดต้องได้อย่างน้อย 80% จึงจะผ่านซองที่ 3 และได้รับการพิจารณาซองที่ 4 และตัดสินรายที่ให้ผลตอบแทนรัฐสูงสุด ซึ่งเกณฑ์ค่อนข้างสูง เพราะต้องการบริการมาตรฐานจากมืออาชีพจริงๆ ซึ่งจากรายชื่อผู้ซื้อซองล้วนเป็นอรหันต์ในวงการทั้งสิ้น
ทั้งนี้ เอกชนจะต้องชำระคืนค่าโครงสร้างพื้นฐานในส่วนของ F1, F2 ประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งต้องทยอยจ่ายคืนภายในระยะเวลา 35 ปีบวกอัตราเติบโตอีก 8% เป็นค่าตอบแทนคงที่ (Fix Fee) ขณะที่ต้องแข่งขันกันที่ข้อเสนอค่าตอบแทนเพิ่มเติม (Additional Fee) ซึ่งตามเงื่อนไขได้กำหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมขั้นต่ำไว้ที่ 100 บาทต่อทีอียู ดังนั้น รายใดเสนอให้สูงสุดจะได้รับคัดเลือก
สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือตู้สินค้าจำนวน 4 ท่า (ท่าเรือ E1 E2 F1 F2) ความจุ 7 ล้านตู้ต่อปี มูลค่าลงทุน 1.1 แสนล้านบาท โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปิดประมูลพัฒนาท่าเรือ F1 F2 ก่อน ซึ่งมีความยาวหน้าท่ารวม 2,000 เมตร รองรับได้ 4 ล้านทีอียูต่อปี ส่วนท่าเรือ E1 E2 จะเปิดประมูลหานักลงทุนหลังจากนี้ประมาณ 8 ปี
กทท.จะต้องลงทุนโครงการสร้างพื้นฐานทั้งหมด เช่น ถมทะเล ขุดลอกร่องน้ำ ก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น ท่าเทียบเรือชายฝั่ง ถนน ระบบราง ระบบไฟฟ้า ประปา ฯลฯ โดยการประเมินล่าสุดปรับลดวงเงินค่าก่อสร้างจาก 4.9 หมื่นล้านบาทเหลือ 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อคุณภาพใดๆ เนื่องจากเป็นการลดงานที่ไม่จำเป็น โดยคาดว่าจะดำเนินการประมาณ 5-6 ปี
ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียด (Detail&Design ) คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธ.ค. 2561 จากนั้นจะเปิดประมูลหาผู้รับจ้าง ดำเนินการด้วยวิธี e-bidding คาดว่าจะลงนามผู้รับจ้างได้ในเดือน เม.ย. 2562
“ออกแบบรายละเอียดเสร็จจะทราบความชัดเจนของแผนงานและกรอบวงเงินแต่ละปี คาดว่าปี 62 จะใช้เงินไม่มากเท่าใดเนื่องจากเป็นช่วงเริ่มเตรียมพื้นที่และจัดหาเครื่องมือ ส่วนปี 63 คาดว่าจะใช้กว่าหมื่นล้านบาทเพราะต้องเร่งงานใน F1 โดยประเมินว่าจะใช้เงินรายได้มาดำเนินการ และอาจต้องกู้เงินบางส่วนเพื่อมาช่วยเสริมสภาพคล่อง”
ส่วนเอกชน ผู้ได้รับคัดเลือกจะต้องลงทุนก่อสร้างท่าเทียบเรือ และอุปกรณ์เครื่องมือสำหรับให้บริการสำหรับท่าเรือ F1, F2 รวมประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยหลังลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลพัฒนาท่าเรือ F1, F2 ประมาณเดือน มี.ค. 2562 กทท.จะเร่งก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและส่งมอบพื้นที่ในส่วน F1 ให้ผู้ชนะประมูลเพื่อเข้าก่อสร้างท่าเรือและจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือ ให้สามารถเปิดบริการรับเรือได้ภายในเวลา 2 ปี นับจากวันที่ กทท.ส่งมอบพื้นที่ให้ หากล่าช้าจะถูกปรับวันละ 3 ล้านบาท
สำหรับรายชื่อบริษัทซื้อเอกสารประกวดราคาแหลมฉบังเฟส 3 เป็นบริษัทในประเทศ 17 บริษัท ได้แก่
1. TIPS CO., LTD
2. Charoen Pokphand Holding CO., LTD
3. UNIQUE Engineering & Construction CO., LTD
4. Laem Chabang International Terminal CO., LTD
5. JWD Info Logistics CO., LTD
6. CHEC (Thai) CO., LTD
7. Italian-Thai Development PLC
8. SUMITOMO Corporation Thailand LTD
9. PTT TANK Terminal CO., LTD
10. Hutchison Laemchabang Terminal Limited
11. Bangkok Modern Terminal CO., LTD
12. PSS Organic Healing LTD
13. Associate Infinity CO., LTD
14. BMT Pacific CO., LTD
15. Mediterranean Shipping (Thailand) CO., LTD
16. บริษัท ซี.อาร์.ซี. การท่าเรือ จำกัด
17. Powerline Engineering PLC
บริษัทต่างชาติ 15 บริษัท ได้แก่
1. China Harbor Engineering Company LTD
2. ITOCHU Corporation LTD
3. Fujita Corporation (Thailand) LTD
4. MITSUI & CO., (Thailand) LTD
5. China Merchants Port Holdings CO., LTD
6. International Container Terminal Services, INC
7. PSA International Pte LTD
8. Adani Ports and Special Economic Zone LTD
9. China Railway Construction Corporation CO., LTD
10. Shekou Container Terminals LTD
11. China communication construction company LTD.
12. APM Terminals B.V.
13. Terminal Investment Limited Sarl
14. Dredging International nv
15. Boskalis International B.V.
ทั้งนี้ ได้กำหนดให้เอกชนยื่นเอกสารในวันที่ 14 มกราคม 2562 และคาดว่าจะตัดสินผู้ชนะได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562