ทอท.เด้งรับนโยบายฟรีวีซ่า ออกโปรฯ ลดค่าธรรมเนียมขึ้น-ลง 50% ที่สุวรรณภูมิ และภูเก็ต จูงใจแอร์ไลน์ เปิดบินช่วงตี 2-6 โมงเช้า กระตุ้นท่องเที่ยวไฮซีซัน 4 เดือน ชะลอเทอร์มินัล 2 รอคำตอบ ICAO เสนอ สศช.เร่งลงทุนรันเวย์ 3 และขยายอาคารตะวันตก
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธานวันนี้ (21 พ.ย.) มีมติอนุมัติโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินและการท่องเที่ยวไทยระยะสั้น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท.เสนอ โดยสายการบินที่จะเข้าร่วมโครงการต้องเป็นสายการบินที่ไม่เคยมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศในช่วงเวลา 02.00-06.59 น. และเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศเส้นทางใหม่มายังสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต ในช่วงเวลา 02.00-06.59 น.หรือสายการบินเดิมที่เคยมีเส้นทางการบินระหว่างประเทศในช่วงเวลา 02.00-06.59 น. และเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศใหม่เพิ่มเติมในช่วงเวลา 02.00-06.59 น.
ทั้งนี้ สายการบินจะได้รับส่วนลดค่าบริการขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing Fee) ในอัตรา 50% และสนับสนุนเป็นเงินโบนัส 200 บาทต่อผู้โดยสารขาออก 1 คน โดยโครงการมีระยะเวลา 4 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2561 และสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2562
โดยมาตรการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 6 พ.ย. 2561 ซึ่งให้ยกเลิกอัตราค่าธรรมเนียมตามมาตรา 12 (1) ประเภทนักท่องเที่ยว (ชนิดใช้ได้ครั้งเดียว) เป็นการชั่วคราว พ.ศ. 2561 ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2561 - 31 มกราคม 2562 จำนวน 21 ประเทศ เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในอนาคต
สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ปัจจุบันมีโครงการในลักษณะเดียวกันอยู่แล้ว ในขณะที่ท่าอากาศยานดอนเมืองมีหลุมจอดไม่เพียงพอต่อความต้องการของสายการบินในปัจจุบัน และท่าอากาศยานเชียงใหม่ ไม่สามารถขยายระยะเวลาลงจอดอากาศยานได้เกินกว่าเวลา 24.00 น. ดังนั้นจึงสามารถดำเนินโครงการกระตุ้นตลาดด้านการบินฯ ได้ที่สุวรรณภูมิและภูเก็ต
ทอท.ชะลอเทอร์มินัล 2 รอ คำตอบ ICAO ตอบ เสนอ สศช.เร่งลงทุนรันเวย์ 3 และขยายอาคารตะวันตก
นอกจากนี้ บอร์ด ทอท.ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามที่ฝ่ายบริหาร ทอท.เสนอ โดยให้เสนอเรื่องไปที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้าน ทิศตะวันตก (West Expansion) ไปก่อน ส่วนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ให้ฝ่ายบริหาร ทอท.รวบรวมข้อเท็จจริง และความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เพิ่มเติม รวมถึงผลการพิจารณาขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสำนักงานอัยการสูงสุด และเสนอแนวทางดำเนินการให้บอร์ด ทอท.พิจารณาต่อไป
โดยปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างการจัดทำโครงการพัฒนา ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 3 โดยได้เสนอเรื่องให้ สศช.พิจารณาก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก ทสภ. (West Expansion) และโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ทสภ.
แต่เนื่องจากมีผู้สงสัยเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในประเด็น ทอท.ดำเนินโครงการฯ ไม่ตรงตามรายงานผลการศึกษาของ ICAO และไม่เป็นไปตามแผนแม่บท ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานตามโครงการฯ เป็นไปด้วยความรอบคอบ ทอท.ได้ทำหนังสือสอบถาม ขอความเห็นจาก ICAO ในฐานะผู้จัดทำรายงานผลการศึกษาแผนแม่บท ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณด้านทิศเหนือของอาคารเทียบเครื่องบิน A (Concourse A) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ ทอท.จะใช้ดำเนินการก่อสร้างอาคารฯ
นอกจากนี้ มีกรณีที่บริษัทที่ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นผู้ชนะการประกวดแบบได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ซึ่ง ทอท.ได้เสนอเรื่องหารือข้อกฎหมายต่อสำนักงานคดีปกครอง สำนักงานอัยการสูงสุดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาข้อหารือ
ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานด้านความปลอดภัยและระดับคุณภาพในการให้บริการ (Level of Service) ของ ทสภ.ให้เทียบเท่าท่าอากาศยานชั้นนำระดับโลก ทอท.จึงเห็นควรเสนอ สศช.เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานโครงการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 และงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารด้าน ทิศตะวันตก ทสภ. (West Expansion) เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติทั้งสองโครงการไปก่อน และขอชะลอโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จนกว่าจะได้ข้อสรุปผลการหารือจากผู้เกี่ยวข้อง