ผู้จัดการรายวัน 360 - เดอะมอลล์รุกหนักอัดงบตลาด 350 ล้านบาท ลุยสิ้นปีดันแคมเปญเด็ด “Happy Very New Year” หวังโกย 7,000 ล้านบาท ช่วงจัดงาน 62 วัน พร้อมเดินหน้าฟูดเดสติเนชันต่อเนื่อง ปีหน้าอัดฟูดอีเวนต์เพิ่ม
นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจรีเทลในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2561 ในส่วนของศูนย์การค้ายังทรงตัว แต่ภาพรวมยังโตต่อเนื่อง และคาดว่าภาพรวมของ GDP ปีนี้ขยายตัวได้ 4.5% (จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง) นอกจากนี้ยังมีปัจจัยส่งเสริมจากนโยบายการท่องเที่ยวของภาครัฐ มีการลงทุนจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการกระจายของเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
สำหรับเทศกาลปีใหม่ถือเป็นไฮไลต์การทำตลาดช่วงไฮซีซันของการใช้จ่าย เดอะมอลล์กรุ๊ปเตรียมงบประมาณกว่า 350 ล้านบาท จัดแคมเปญ “Happy Very New Year” พร้อมอัดแคมเปญตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2561-15 ม.ค. 2562 (รวม 62 วัน) รวมถึงการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ในการชอปปิ้งใหม่เพื่อดึงดูดลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
ทั้งนี้ คาดว่าแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ จะกระตุ้นกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปีและช่วยเพิ่มปริมาณคนเข้าศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์กว่า 20% จากช่วงเวลาปกติ โดยคาดว่าช่วงปีใหม่นจะมียอดขายรวมกว่า 7,000 ล้านบาท และส่งผลให้ยอดขายสิ้นปี 2561 ทำได้ 58,000 ล้านบาท โตจากปีที่ผ่านมา 4% ตามเป้าหมาย และตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีหน้าที่ 60,000 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาเดอะมอลล์มีการปรับตัวมาตลอด และจุดแข็งอย่างหนึ่งของเราก็คือ เรื่องอาหาร จนเป็นฟูดเดสติเนชัน ซึ่งการสำรวจพบว่าพฤติกรรม 3 อันดับแรกที่ลูกค้ามาเดอะมอลล์แล้วต้องทำคือ รับประทานอาหาร รองลงมาคือ การทำธุรกรรมการเงิน และการชอปปิ้ง ซึ่งเราก็ยังเติมเต็มร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง เช่น ร้านโคอิเตะที่บางแค ร้านอาฟเตอร์ยูที่บางแค ร้านสุกี้เอี่ยวไถ่ที่บางแค เป็นต้น กระทั่งมีสัดส่วนร้านอาหารกว่า 30-40% ของพื้นที่แต่ละสาขา จากเดิมมีแค่ 10-20% ของพื้นที่เท่านั้น ธุรกิจร้านค้าอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ หรืออื่นๆ ร้านไหนที่หมดสัญญาและดูว่าอาจจะไม่เหมาะกับยุคนี้เราก็ไม่ได้ต่อสัญญา” นางสาววรลักษณ์กล่าว
ปีหน้าเดอะมอลล์รุกหนักเรื่องอาหารอีก จะมีร้านใหม่มาเปิดในแต่ละสาขา มีการจัดฟูดอีเวนต์ใหญ่ๆ ทุกสาขาทุกเดือน หรือมีสัดส่วนฟูดอีเวนต์เพิ่มเป็น 15% จากเดิมมีสัดส่วน 10% จากอีเวนต์ทั้งหมด และปีนี้ก็มีเพียง 9 ครั้งเท่านั้น และตั้งเป้าให้ลูกค้าใช้เวลาในศูนย์เดอะมอลล์นานขึ้นเป็น 2.30 ชั่วโมง จากเดิม 1.30 ชั่วโมง
นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะปรับกลยุทธ์บลูพอร์ตที่หัวหินด้วย ซึ่งช่วงนี้ต้องยอมรับว่าตลาดหัวหินเงียบกว่าเดิมช่วง 5 ปีที่ผ่านมามาก นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวหัวหินน้อยลง จากเดิมเราตั้งเป้าสัดส่วนลูกค้าต่างชาติไว้ถึง 40%