xs
xsm
sm
md
lg

ซีพีเอ็นชูอินโนเวชันทางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ ต่อยอดวิสัยทัศน์ “Center of Life” แตกไลน์ธุรกิจใหม่แบรนด์ ‘Common Ground’ โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

(จากซ้าย)คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์
•ทุ่มงบ 800 ล้านบาท รุก 20 สาขาทั่วประเทศใน 5 ปี พร้อมเปิดต้นปีหน้า ร่วมทุนกับพันธมิตรโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
•ตั้งเป้าเป็น‘คอมมูนิตีเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ที่ดีที่สุด’ แห่งแรกในประเทศไทย
•จิ๊กซอว์สำคัญผลักดัน SMEs ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ต่อยอดธุรกิจ และมาร์เกตเพลสกับซีพีเอ็น กลุ่มเซ็นทรัลและผู้เช่า



ซีพีเอ็น เซ็นสัญญาร่วมทุนกับคอมมอน กราวด์ เพื่อรุกแตกไลน์ธุรกิจใหม่แบรนด์ ‘Common Ground’ โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบ
เมื่อวันที่  13 พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)หรือซีพีเอ็นประกาศเดินหน้าขยายไลน์ธุรกิจใหม่แบรนด์ ‘คอมมอน กราวนด์’ (Common Ground) โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบเพื่อสร้างคอมมูนิตีผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ และต่อยอดวิสัยทัศน์การสร้าง Center of Life ศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ด้วยการร่วมทุนกับ Common Ground Group แบรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งเป้าทุ่มงบ 800 ล้านบาท เปิด 20 สาขาใน 5 ปี เปิดสาขาแรกต้นปีหน้า มุ่งเป็น ‘คอมมูนิตีเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ที่ดีที่สุด’ แห่งแรกในไทย ชูจุดแข็งความเป็นศูนย์การค้าอันดับหนึ่งของประเทศที่สามารถต่อยอดธุรกิจด้วยเน็ตเวิร์กและมาร์เกตเพลสของซีพีเอ็น และกลุ่มเซ็นทรัล พร้อมตอบรับชีวิตทำงานยุคใหม่ด้วย Holistic Lifestyle Integration เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพฮับแห่งเซาท์อีสต์เอเชีย และผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งยั่งยืน
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า “จากวิสัยทัศน์การสร้าง Center of Life ของเราในการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เราจึงขยายไลน์ธุรกิจใหม่แบรนด์ ‘คอมมอน กราวนด์’ (Common Ground) โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบ ซึ่งถือเป็น the New Generation of Innovative Coworking Community เพื่อเป็น ‘คอมมูนิตีเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ที่ดีที่สุด’ แห่งแรกในไทยด้วยการร่วมทุนกับคอมมอน กราวนด์กรุ๊ป แบรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าทุ่มงบ 800 ล้านบาท เปิด 20 สาขาใน 5 ปี เปิดสาขาแรกต้นปีหน้าเพื่อตอบรับเทรนด์ coworking space และ sharing economy กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องใน 10 ปีข้างหน้า และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจโคเวิร์กกิ้งแห่งใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
(จากซ้าย)คุณอิศเรศ จิราธิวัฒน์, ดาตุก์ ชอย วาย เชียว , ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ,มร. จุน เตียว,  มร. เออร์แมน อะคินซี
นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายขาย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)กล่าวถึงเทรนด์ของโคเวิร์กกิ้งสเปซในไทยว่า ในปัจจุบันมีกลุ่มบริษัทโคเวิร์กกิ้งสเปซระดับนานาชาติจากต่างประเทศหันมาปักหมุดและลงทุนในประเทศไทย โดยปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ หนึ่ง เมกะเทรนด์ที่ไลฟ์สไตล์การทำงานของผู้คนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปตาม Technology และ Flexibility โดยต้องการพื้นที่ทำงานที่มีความเป็น Collaborative Workspace รวมถึงการลดต้นทุนทางธุรกิจทำให้รูปแบบการทำงานของผู้ประกอบการ และบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลกจะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยคาดว่าตลาด coworking space ในเอเชียจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30% ในปี 2030 จากปัจจุบันที่มีตลาดอยู่ที่ 2% สอง อัตราการเติบโตของตัวเลขเอสเอ็มอีในประเทศไทย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูง 8-10% ต่อปี มากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยกว่า 1 ใน 6 มีธุรกิจอยู่ในกรุงเทพฯ หรือคิดเป็นกว่า 500,000 ราย โดยเอสเอ็มอีเหล่านี้ล้วนแต่มองหาสถานที่ทำงานในทำเลที่ดี หรือ prime location แต่การเข้าถึงออฟฟิศให้เช่าเกรด A ในกรุงเทพฯ เป็นไปได้ยากและมีราคาสูง เช่นเดียวกับบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ทำให้โคเวิร์กกิ้งในรูปแบบของ ‘คอมมอน กราวนด์’ จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในเข้าถึงสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ หรือโคเวิร์กกิ้งสเปซที่เต็มไปด้วยบริการมาตรฐานเกรด A และยังตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพเปี่ยมไปด้วยเครือข่ายทางธุรกิจ
(จากซ้าย)มร. เออร์แมน อะคินซี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งคอมมอน กราวด์ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของคอมมอน กราวด์ และมร. จุน เตียวประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมมอน กราวด์
 มร. เออร์แมน อะคินซี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งคอมมอน กราวนด์และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของคอมมอน กราวนด์ เผยว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเข้าใจผู้ประกอบการอย่างลึกซึ้งในประเทศไทย เราเชื่อว่าการผนึกกำลังในครั้งนี้กับเซ็นทรัลพัฒนาที่เป็นผู้นำการพัฒนาศูนย์การค้าของประเทศและหนึ่งในบริษัทกลุ่มเซ็นทรัลจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจและสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ทำให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดธุรกิจด้วยเน็ตเวิร์กและมาร์เกตเพลส พร้อมตอบรับชีวิตคนทำงานและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ด้วย Holistic Lifestyle Integration ด้วยความแข็งแกร่งและกลุ่มธุรกิจที่หลากหลายของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม แบรนด์แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ และร้านอาหาร จะเป็นจุดแข็งด้านไลฟ์สไตล์ที่โดดเด่น ครบครัน และครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย”
บรรยากาศการพูดคุยของผู้บริหารซีพีเอ็นและบริษัทคอมมอน กราวด์
“การเปิดตัวคอมมอน กราวนด์ในประเทศไทยนี้ถือเป็นการเปิดตัวในต่างประเทศเป็นประเทศที่ 3 ในภูมิภาคนี้ โดยจะเป็นรีจินัลแฟลกชิปแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยขนาดพื้นที่ถึง 4,500 ตร.ม. ซึ่งจะตั้งอยู่ใน Bangkok CBD ซึ่งโคเวิร์กกิ้งสเปซรูปแบบใหม่นี้จะทำให้ผู้ประกอบการหรือบริษัทใหญ่ต่างๆ สามารถลดต้นทุนเนื่องจากไม่จำเป็นต้องลงทุนสร้างออฟฟิศแบบถาวร ตั้งอยู่ใน Prime location ทำให้ติดต่องานและหมุนเวียนเปลี่ยนโลเกชันได้สะดวก อีกทั้งมีความแตกต่างจากโคเวิร์กกิ้งสเปซอื่นๆ ด้วยจุดเด่นในการมอบไลฟ์สไตล์ที่ครบครันและสมบูรณ์แบบ (Enrich Lifestyle) ด้วยโลเกชันที่ใกล้กับศูนย์การค้าพร้อมสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตรทางธุรกิจและแบรนด์ต่างๆ ทั้งแฟชั่นไลฟ์สไตล์ ร้านอาหาร ธนาคาร ฟิตเนส ที่จอดรถ ร่วมด้วยกิจกรรมอีเวนต์และไลฟ์สไตล์เวิร์กชอปมากมาย พร้อมต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจ (Expand Business through our deep partnerships) ด้วยการได้ทดลองทำตลาด ทำจริง ขายจริง ในศูนย์การค้าของซีพีเอ็น และธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเซ็นทรัล นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถใช้บริการได้ในทุกสาขาทั่วโลกและเพิ่มคอนเนกชันทางธุรกิจที่เปิดกว้างและหลากหลายกว่า” มร.เออร์แมน อะคินซีกล่าว
บรรยากาศการพูดคุยของผู้บริหารซีพีเอ็นและบริษัทคอมมอน กราวด์
 มร. จุน เตียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทคอมมอนกราวนด์และอีกหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง  กล่าวถึงแผนการลงทุนของคอมมอน กราวนด์กรุ๊ปในระดับภูมิภาคว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้าเราตั้งเป้าจะเติบโตกว่า 3 เท่าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยสำหรับประเทศไทยจะมีจำนวนสาขาทั่วประเทศกว่า 20 สาขา โดยกว่า 10 สาขาจะตั้งอยู่บน Prime Location ในกรุงเทพฯ ที่อยู่ในอาคารสำนักงานที่เชื่อมต่อกับศูนย์การค้าของซีพีเอ็นหรืออาคารสำนักงานให้เช่าอื่นๆ รวมถึงสาขาในหัวเมืองสำคัญ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และ พัทยา เป็นต้น ทำให้ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการในโลเกชันของเราได้ทั้งในและต่างประเทศ”

     มร. เตียวกล่าวเพิ่มเติมว่า “คอมมอน กราวนด์เป็นรูปแบบใหม่ของโคเวิร์กกิ้งสเปซในประเทศไทย โดยจับกลุ่มเป้าหมายคนทำงานรุ่นใหม่ ได้แก่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มสตาร์ทอัพและฟรีแลนซ์ 80% และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่มีความต้องการทำงานในโคเวิร์กกิ้งสเปซ 20% การขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทยในครั้งนี้ จึงมุ่งเข้ามาเพื่อสร้างสรรค์ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ให้กับคนไทย เพื่อตอบรับ 6 เทรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซที่จะเกิดขึ้นในปี 2019 ทั่วโลกอีกด้วย ทำให้คอมมอนกราวนด์เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบที่ตอบโจทย์เทรนด์ระดับโลกทั้ง 6 ประการ เพื่อสร้างคอมมูนิตีผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย”
Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซรูปแบบใหม่ เติมเต็มไลฟ์สไตล์การทำงานสมัยใหม่
มร.เตียวกล่าวเพิ่มเติมถึง 6 เทรนด์โคเวิร์กกิ้งสเปซที่จะเกิดขึ้นในปี 2019 ทั่วโลก ได้แก่
ในระดับนักลงทุนธุรกิจโคเวิร์กกิ้ง คือ
•เทรนด์การเข้ามาลงทุนทำ Coworking space จะเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างความครบครันให้กับโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสของกลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์
•เทรนด์โลคัลแอคโกลบอล หรือการผสมผสานอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของผู้ประกอบการในท้องถิ่นเข้ากับความเชี่ยวชาญการจัดการในระดับนานาชาติจากโกลบอลแบรนด์
ในระดับผู้ประกอบการยุคใหม่
•กระแส Work-Life Balance ในคนยุคใหม่
•เทรนด์การชอบใช้พื้นที่การทำงานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้และช่วยจุดประกายต่อยอดโอกาสธุรกิจ (Flexible & Hyper Competitive Space)
•เทรนด์ความต้องการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กด้วยเทคโนโลยีและระบบบล็อกเชนในพื้นที่การทำงาน และ
•เทรนด์ที่กลุ่มบริษัทใหญ่ๆ (Corporate) เริ่มมองหาพื้นที่การทำงานในรูปแบบใหม่เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ให้กับองค์กร รวมถึงเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ
Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซรูปแบบใหม่ เติมเต็มไลฟ์สไตล์การทำงานสมัยใหม่
Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซรูปแบบใหม่ เติมเต็มไลฟ์สไตล์การทำงานสมัยใหม่
(ขวาสุด) คุณอภินรา ศรีกาญจนา ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท U Drink I Driveตัวแทนผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ ร่วมพูดคุย
(ขวาสุด) คุณจรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา เจ้าของร้านโซลจูปูดอง และ (ที่ 2 จากขวา) คุณกานต์พิชชา เกียรติขจรฤทธิ์ เจ้าของธุรกิจ DIVANA Signature Café ตัวแทนผู้ประกอบการหัวคิดใหม่ ร่วมพูดคุย
ทีมผู้บริหารและตัวแทนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ร่วมงานประกาศเปิดตัวแบรนด์ Common Ground โคเวิร์กกิ้งสเปซเต็มรูปแบบ


กำลังโหลดความคิดเห็น