ขสมก.สูญรายได้บัตรคนจน เบิกเงินกรมบัญชีกลางไม่ได้ เรียกค่าปรับและค่าเสียรายได้จาก ช ทวีฯ คู่สัญญา เหตุติดตั้งระบบ E-Ticket ล่าช้า เครื่อง Cash box ใช้งานไม่ได้ ขสมก.เรียกค่าปรับและค่าเสียหายจากการขาดรายได้บัตรคนจนเป็นเงินกว่า 76 ล้าน ล่าสุดคาดติด E-Ticket ครบ 2,600 คันใน 30 พ.ย.นี้ เร่ง ร.ฟ.ม.ส่งต้นแบบอัปเกรดบัตรแมงมุม 2.5 ตั้งเป้าแตะได้ เม.ย. 62
นางพนิดา ทองสุข รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า การติดตั้งเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) บนรถโดยสาร ขสมก. จำนวน 2,600 คัน ขณะนี้ติดตั้งบนรถโดยสารธรรมดาจำนวน 800 คันเรียบร้อยแล้ว และระบบมีความเสถียร ส่วนที่เหลือล่าสุดได้ติดตั้งเพิ่มในรถปรับอากาศ 221 คัน อยู่ระหว่างการทดสอบ
ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มนิติบุคคลร่วมทำงาน (บ.ช ทวี จำกัด, บ.จัมป์ อัพ จำกัด, บ.เอ็มโอแอล เพย์เมนท์ จำกัด) มีการส่งมอบล่าช้า ซึ่งจะถูกปรับตามสัญญา ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 60-6 พ.ย. 61 รวมเป็นเงิน 10.7 ล้านบาท (อัตราค่าปรับ 0.20% )
ขสมก.เรียกค่าเสียหายจากการขาดรายได้กรณีที่ระบบไม่สามารถดำเนินการรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ โดยยังคงต้องใช้วิธีฉีกคูปองให้ผู้ถือบัตรที่มาใช้บริการ ซึ่งกรณีนี้ ขสมก.ไม่สามารถเบิกเงินจากกรมบัญชีกลางได้เพราะข้อมูลยังไม่เชื่อมกับระบบของกรมบัญชีกลางทำให้ไม่สามารถพิสูจน์รับรองจำนวนได้ ซึ่ง ขสมก.และบริษัทฯ ได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) โดยบริษัทจะต้องชดใช้ส่วนที่ ขสมก.ขาดรายได้ตั้งแต่ พ.ย. 60- ต.ค. 61 เป็นเงิน 66 ล้านบาท โดยคิดจากอัตราค่าโดยสาร รถร้อน 6.50 บาท มีผู้ถือบัตรสวัสดิการใช้บริการเฉลี่ย 2.4 หมื่นบัตร/วัน หรือคิดเป็นรายได้ที่ ขสมก.ต้องรายได้รับ 4-5 ล้านบาท/เดือน
ขสมก.ลงนามกับ ช.ทวี เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 60 กำหนดติดตั้งและส่งมอบครบ 2,600 คันภายใน 1 ปี โดย 100 คันแรกส่งมอบ 13 ต.ค. 60 ต่อมาวันที่ 12 ธ.ค. 60 ต้องส่งมอบอีก 700 คัน และวันที่ 10 มิ.ย. 61 ต้องส่งมอบอีก 1,800 คันที่เหลือ
“ตอนนี้บริษัทจะถูกปรับไปเรื่อยๆ จนกว่าจะติดตั้งครบและใช้งานได้จริง โดยบริษัทระบุว่าจะติดตั้งระบบ E-Ticket ครบ 2,600 คันในวันที่ 30 พ.ย. 61 และส่งมอบให้ ขสมก.นำไปทดสอบในวันที่ 15 ธ.ค. 61 ขณะที่บริษัทพร้อมที่จะอัปเกรดระบบจากแมงมุมเวอร์ชัน 2.0 เป็นเวอร์ชัน 2.5 ได้ภายใน 4 เดือนหลังจาก รฟม.ส่งต้นแบบหัวอ่านให้ ซึ่งกำหนดส่งให้ในต้นเดือน พ.ย.นี้ หากไม่ล่าช้าจะอัปเกรดระบบได้เสร็จ มี.ค. 62 และให้บัตรคนจนและบัตรแมงมุมแตะใช้งานได้ในเดือน เม.ย. 62 ทั้งนี้ ต้องขึ้นกับ รฟม.และ สนข.จะเข้ามาตรวจสอบรับรองด้วย”
ส่วนการยกเลิกเครื่องเก็บค่าโดยสาร (Cash box) ได้เจรจากับบริษัทฯ แล้ว โดย ขสมก.จะจ่ายเฉพาะค่าเช่าระบบ E-Ticket ที่ 182.93 บาท/คัน/วัน จากเดิมที่มี 2 ระบบ ต้องจ่าย 355 บาท/คัน/วัน ส่วนกระบวนการยกเลิกเป็นอำนาจของ ผอ.ขสมก. ซึ่งคาดว่าจะสรุป และรายงานบอร์ดรับทราบเร็วๆ นี้ หลังจากนั้นจะมีการแยกสัญญาและทางบริษัทฯ จะรื้อ Cash box ออก