ในยุคปัจจุบันต้องบอกว่าเพลงแร็ปได้กลับมาคืนชีพอีกครั้ง พร้อมกับศิลปินหน้าใหม่ที่แจ้งเกิดจากกลุ่มเล็กๆ จนตอนนี้ต้องเรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการเพลงแร็ปเลยก็ว่าได้ จึงกลายเป็นที่มาของการร่วมมือครั้งสำคัญของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ กับ Rap is now ในโปรเจกต์ THE RAPISODE ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่นำเพลงฮิตของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ทุกยุคมาทำใหม่ให้เป็นเพลงแร็ป
นายภาวิต จิตรกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เราเชื่อว่าดนตรีมีความสำคัญในทุกๆ Segment ซึ่งจริงๆ แล้วเพลงแร็ปเป็น Segment ที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ไม่มี และเราเล็งเห็นถึงการเติบโตของ Segment ในประเภทนี้ จึงทำให้มองเห็นโอกาสและยุทธศาสตร์ของการร่วมมือกับ Specialist หรือผู้นำตลาดของแนวเพลงแร็พนั่นก็คือ Rap is now
สำหรับโปรเจกต์ THE RAPISODE นี้คือการสร้างสรรค์เริ่มจากการนำเพลงฮิตของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่มีลิขสิทธิ์เพลงมากกว่า 50,000 เพลง คัดเลือกให้เหลือ 50 เพลงมาทำใหม่ให้กลายเป็นเพลงแร็ป แต่ทุกเพลงในโปรเจกต์นี้ยังคงอยู่ภายใต้ Business model ที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่าย
ในส่วนของ Rap is now ถือว่าเป็นครีเอทีฟที่ได้มาทำงานร่วมกันในโปรเจกต์นี้ โดยได้ชักชวนศิลปินฮิปฮอปกว่า 30 ชีวิตมาร่วมกันทำเพลงประมาณ 50 เพลงให้กลายเป็นเพลงแร็ป ซึ่งจะทยอยปล่อยเพลงออกมาให้ได้ฟังกัน ยิ่งไปกว่านั้น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จะสนับสนุนและช่วยเผยแพร่เพลงทุกเพลงในโปรเจกต์นี้ผ่านช่องทาง Youtube ของ GMM Grammy Official ที่มีผู้ติดตามกว่า 13 ล้าน Subscribers มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 105% รวมถึงช่องทาง Youtube ของ GMM Grammy Music Group ที่มีผู้ติดตามกว่า 49 ล้าน Subscribers มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 90%
เราเชื่อมั่นว่าการจับมือร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นการส่งเสริมให้เพลงแร็ปเข้าถึงคนได้มากขึ้นและสร้างความชื่นชอบได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเราตั้งเป้าการรับชมรับฟังเพลงในโปรเจกต์ THE RAPISODE นี้จะมียอดวิวไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านวิว
ดังนั้น นี่คงเป็นจุดเริ่มต้นของการ Co-Create ที่เป็นไปตาม Direction ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ คือการเป็น Entertainment Infrastructure ที่สามารถ Co-Create กับผู้ที่มีความสามารถได้ทุกรูปแบบ
'วันนี้เป็นความร่วมมือการผลิตเพลงแร็ปร่วมกันกับ Rap is now แต่ Road map ในอนาคตมันอาจจะเดินทางไปสู่ Showbiz หรือ Festival ร่วมกันก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้ เพียงแต่ว่าเป้าหมายใหญ่ก็คือการเติบโตไปด้วยกันแบบต่อเนื่องและยั่งยืน'
นายศวิชญ์ สุวรรณกุล Creative & Art Director Rap is now กล่าวว่า “ถ้าพูดถึงวงการฮิปฮอปตอนนี้ต้องเรียกว่าเป็นปรากกการณ์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาเลยครับ เพราะตลอดหลายๆ ปีที่ผ่านมาก็มีขึ้นมีลง แต่สำหรับผมความสำคัญอีกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นแบบชัดเจนก็คือการมีกลุ่มแฟนเพลงที่เริ่มติดตามผลงานศิลปินฮิปฮอปอย่างจริงจัง เนื่องด้วยมีวงทางเลือกให้เขามากขึ้น สามารถตอบสนองรสนิยมและความต้องการของแฟนๆ
ในอนาคตผมคาดว่าคงจะเริ่มมีแนวเพลงแร็ปที่แตกแขนงออกไปมากขึ้น แบบที่ Base จากศิลปินอย่างชัดเจน เช่น เพลงแร็ปเพื่อชีวิตที่ทำขึ้นเพื่อกลุ่มคนที่ชื่นชอบแนวเพลงเพื่อชีวิตโดยเฉพาะ หรืออาจจะเป็นเพลงแร็ปที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นเข้าไป รวมถึงเพลงแร็ปแนว Futuristic ที่ใช้ซาวนด์แปลกๆ ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ส่วนเรื่องคุณภาพของผลงานจะต้องมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะค่อนข้างมีการแข่งขันเยอะพอสมควรครับ”
การทำงานร่วมกับจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ถือเป็นโอกาสที่ดีของ Rap is now ที่จะทำให้เพลงแร็ปเข้าถึงคนได้มากขึ้นและสร้างความชื่นชอบได้มากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เป็น Hub ของดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยทำสิ่งที่เราคิดให้เป็นจริงได้เร็วขึ้น
โปรเจกต์แรก THE RAPISODE เป็นโปรเจกต์ที่นำเพลงฮิตของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ทุกยุคมาทำใหม่ให้เป็นเพลงแร็ป ซึ่งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีเพลงฮิตจำนวนมากแบบนับไม่ถ้วนที่จะให้เลือกสร้างสรรค์เป็นผลงานใหม่ได้ เพลงในโปรเจกต์นี้มีข้อดีตรงที่มันจะเข้าถึงผู้ฟังได้เร็วขึ้นด้วยเนื้อร้องหรือทำนองที่คุ้นหูอยู่แล้ว เลยเป็นโปรเจกต์ที่สนุกมากๆ และยังเป็นการมอบโอกาสให้แร็ปเปอร์รุ่นใหม่ๆ มาลงอีกสนามที่มีผู้ฟังจำนวนมหาศาล