เอกชนภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน) ชงของบจากภาครัฐ 866 ล้านบาทหนุนปั้นอุตสาหกรรมศักยภาพในพื้นที่ ทั้งชา กาแฟ ไผ่ สมุนไพร แฟชั่นลานนา ก้าวสู่เวทีระดับโลก “อุตตม” รับลูกขอให้จัดทำรายละเอียด
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ได้แก่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ว่า ภาคเอกชนในพื้นที่ได้ของบประมาณในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพรวม 866 ล้านบาทเพื่อพัฒนาสินค้าท้องถิ่นสู่ระดับสากลเพื่อส่งเสริมการส่งออกมากขึ้น ดังนั้นจึงมอบหมายให้ภาคเอกชนที่ต้องการขอรับงบสนับสนุนจัดทำแผนลงลึกในรายละเอียดมาเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ขณะเดียวกันยังให้นำโครงการนอร์ทเทิร์นไทยแลนด์ฟู้ดวัลเลย์ที่เคยดำเนินการในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมดมาดำเนินการให้เป็นแนวทางเดียวกันเพื่อสนับสนุนเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาหารโลก
“ขอให้ไปทำรายละเอียดมาว่าต้องใช้งบจากส่วนใดบ้าง ส่วนใดที่กระทรวงอุตสาหกรรมมี หรือส่วนใดต้องขอเพิ่มเติม รวมทั้งจะใช้เครื่องมือของกระทรวงอุตฯ ไปพัฒนา เช่น ศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมอนาคต หรือไอซีที ที่มีอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งศูนย์ภาค 13 แห่ง และศูนย์มินิไอทีซี 64 แห่ง หรือการขอมาตรฐานต่างๆ จะให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เข้าไปดู ส่วนไทยแลนด์ฟู้ดวัลเลย์ภาคเหนือเคยทำมาแล้วตั้งแต่ปี 55 แต่ต่างคนต่างทำ จากการหารือครั้งนี้ต้องการให้รวมกลุ่มกันเป็นคลัสเตอร์และกำหนดแผนงานให้ชัดเพื่อต่อยอดซึ่งกันและกัน” นายอุตตมกล่าว
สำหรับการของบจากภาคเอกชน แบ่งเป็นอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะชา กาแฟ ขอประมาณ 750 ล้านบาท เพื่อยกระดับการผลิตชา กาแฟให้เป็นสินค้าพรีเมียม สร้างแบรนด์สู่ตลาดโลก
อุตสาหกรรมสมุนไพร ของบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศสมุนไพรครบวงจร, ตลาดกลางสมุนไพร, สร้างแบรนด์ไทยเฮิร์บให้เป็นที่รู้จักของตลาดโลก
อุตสาหกรรมไผ่ ของบประมาณ 40 ล้านบาท ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมไผ่ครบวงจร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรผู้ปลูกไผ่มีรายได้เพิ่มขึ้น ได้รับการยอมรับให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เป็นต้น