ม.ธรรมศาสตร์หารือ”อุตตม”หวังผลักดันภาครัฐสนับสนุนการจัดตั้งเขตส่งเสริมกิจการพิเศษธรรมศาสตร์ อีอีซี หวังปั้นเป็นเมดิคอลฮับ พื้นที่565 ไร่ที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา จ.ชลบุรี หวังของบประมาณสนับสนุนจากอีอีซีการพัฒนาเฟสแรกนำร่อง 2,600 ล้านบาท
นางเกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้หารือกับ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อเสนอแนวคิดในการจัดตั้งเขตส่งเสริมกิจการพิเศษ ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยจะขอใช้ชื่อว่า เขตส่งเสริมกิจการพิเศษธรรมศาสตร์ อีอีซี ซึ่งถือว่าเป็นโครงการสำคัญที่จะสนับสนุนการพัฒนาเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์(เมดิคอลฮับ)ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลส่งเสริมฯ โดยพื้นที่พัฒนาจะอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี รวมประมาณ 565 ไร่
“การจะเป็นเขตส่งเสริมกิจการพิเศษได้จะต้องผ่านกระบวนการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(กพอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งทางรมว.อุตสาหกรรมเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนซึ่งท่านเป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารการ พัฒนาเขตพัฒนาพิศษภาคตะวันออก (กบอ.)ดังนั้นเราก็คาดหวังว่าจะมีการพิจารณาจากกพอ.ในเดือนพ.ย.นี้”นางเกศินี
สำหรับการขอตั้งเขตส่งเสริมพิเศษธรรมศาสตร์ฯ เพื่อจัดตั้งเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ (เมดิคอลฮับ) และเชื่อมต่อข้อมูลกับบิ๊กดาต้าเพื่อขยายไปสู่การเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมขั้นสูงอื่นๆ แบ่งการพัฒนาออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาความเป็นไปได้ของการจัดตั้ง และระยะที่ 2 จัดทำแผนแม่บทการดำเนินงานขับเคลื่อน การออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง การบริหารจัดการพื้นที่ และการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ในการดำเนินงานระยะที่ 2 ต้องแบ่งการลงทุนเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,600 ล้านบาท สำหรับก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน อาคารของโรงพยาบาล ที่คาดว่าจะก่อสร้างได้ประมาณปี 2562 และอาคารส่วนขยายของคณะแพทยศาสตร์ ที่คาดว่าจะก่อสร้างได้ในปี 2563 และการลงทุนระยะที่ 2 คือ อุปกรณ์ทางการแพทย์และครุภัณฑ์การศึกษา คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 2,400 ล้านบาท
“เบื้องต้นคาดว่ารัฐจะลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาทโดยจะเสนอของบประมาณทางอีอีซีระยะแรกก่อน 2,600 ล้านบาทในเฟสแรก และคาดหากประสบความสำเร็จว่าจะมีเอกชนมาร่วมลงทุนคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท” นางเกศินี กล่าว