กทท.เปิดใช้โครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ท่าเรือแหลมฉบังแล้ว ตั้งเป้ารองรับสินค้า 2 ล้านทีอียู เพิ่มสัดส่วนการขนส่งทางรางเป็น 25%
วันนี้ (25 ตุลาคม) นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) ซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมศักยภาพด้านลอจิสติกส์ของประเทศ พัฒนาโครงการ SRTO เพื่อรองรับการขนส่งตู้สินค้าด้วยระบบรางที่ท่าเรือแหลมฉบัง ตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนนเป็นทางรางและทางน้ำ เพื่อเป็นการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ของประเทศ ประหยัดพลังงาน ลดมลภาวะ ลดต้นทุนการขนส่ง และทำให้สัดส่วนการขนส่งทางรางเพิ่มขึ้นเป็น 25%
ร้อยตำรวจตรี มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง รักษาการแทนผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ทลฉ. โครงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ (Single Rail Transfer Operator : SRTO) เป็นการพัฒนาระบบการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟหลังจากโครงการรถไฟทางคู่เปิดบริการ ให้สามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าที่จะมาใช้บริการมากขึ้นระดับ 2.0 ล้านทีอียูต่อปี
โดยมีโครงสร้างพื้นฐานหลักพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น ได้แก่ รางรถไฟพวงราง 6 ราง ระหว่างท่าเทียบเรือชุด B และชุด C พื้นที่ประมาณ 600 ไร่ มีพื้นที่กองเก็บตู้สินค้า 28,000 TEU แต่ละรางมีความยาวในช่วง 1,224-1,434 เมตร สามารถจอดขบวนรถไฟได้รางละ 4 ขบวน รวมเป็น 8 ขบวน รองรับและเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ของ ร.ฟ.ท. จากสถานีรถไฟแหลมฉบังเข้าสู่พื้นที่โครงการระยะทางประมาณ 4.3 กิโลเมตร
ติดตั้งเครื่องมือยกขนตู้สินค้าชนิดพิเศษสามารถทำงานคล่อมรางรถไฟทั้ง 6 รางในเวลาเดียวกันและขนถ่ายตู้สินค้าได้พร้อมกัน โดย กทท.เป็นผู้ลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเครื่องมือยกขนหลักทั้งหมด รวมถึงบริหารประกอบการ ใช้งบประมาณลงทุน 1,926 ล้านบาท
และในอนาคตจะขยายไปยังโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ด้วย เพื่อแก้ปัญหาความแออัดการขนส่งสินค้าทางถนน ลดมลภาวะ ลดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งอย่างต่อเนื่อง และเป็นการเน้นย้ำนโยบายการขนส่งที่ไร้รอยต่อของรัฐบาล