ครม.เห็นชอบปรับค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRTตามสัญญาจำนวน 3 สถานี มีผลตั้งแต่ 1 ธ.ค. 61 “ผู้ว่าฯ รฟม.” เผยปรับจำนวน 3 สถานี โดยราคาเริ่มต้นที่ 16 บาท สูงสุด 42 บาท ตามเดิม ขณะที่ผ่านมา BEM ได้ชะลอการปรับราคามาตั้งแต่ 3 ก.ค. 61 รวมเป็นเวลา 5 เดือน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่ากากระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (24 ต.ค.) มีมติเห็นชอบตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอการจัดเก็บค่าโดยสารตามร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บค่าโดยสาร และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสาร ตามสัญญาโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล หรือ MRT ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ โดยจะมีผลในวันที่ 1 ธ.ค. 2561 เป็นต้นไป
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าฯ รฟม.กล่าวว่า จากที่ รฟม. ได้หารือกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ในการใช้อัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) หรือ MRT ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ เดิมถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2561 และได้ขยายเวลาใช้อัตราค่าโดยสารเดิมไปก่อนจนถึงวันที่ 15 พ.ย. 2561 นั้น โดยหลังจากครม.เห็นชอบแล้ว จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาล่วงหน้าก่อนมีผลบังคับใช้ 30 วัน ซึ่งจะต้องใช้ค่าโดยสารเดิมออกไปอีกจนถึงวันที่ 30 พ.ย.2561 โดยจะมีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสารใหม่ในวันที่ 1ธ.ค.2561 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ตามสัญญาสัมปทาน ระหว่าง รฟม.กับ BEM จะมีการปรับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) หรือ MRT ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) ทุก 2 ปี ซึ่งจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 ถึงวันที่ 2 กรกฎาคม 2563 โดยมีการปรับค่าโดยสารใหม่ จำนวน 3 สถานี คือที่สถานีที่ 5,8,11 นับจากสถานีที่เริ่มเดินทาง จะมีอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันสถานีละ 1 บาท ส่วนโครงสร้างค่าโดยสาร รวมจะเริ่มต้นที่ 16 บาท สูงสุด 42 บาท และให้ลดหย่อนค่าโดยสารรถไฟฟ้าลงกึ่งหนึ่งให้แก่บุคคลซึ่งมีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเด็กที่มีความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร รวมทั้งยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้แก่เด็กซึ่งมีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร
โดย การคงอัตราค่าโดยสารเดิมในโครงการรถไฟฟ้า จนถึงวันที่ 30 พ.ย. 2561 จากการเจรจากับ BEM เป็นการสนับสนุนในรูปแบบของ Promotion แก่ผู้โดยสาร โดยไม่ต้องให้รัฐบาลชดเชยแต่ประการใด