เวทีดีเบต “เทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ” องค์กรวิชาชีพสลับกันชำแหละ ทอท.แก้แผนแม่บทไร้ผู้รับรอง พร้อมขอให้ยุติเรียกร้อง ครม.พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน หรือใช้ ม.44 แก้ปัญหา ด้าน “สมเจตน์” แฉ ICAO แนะให้ต่อขยายอาคารเทียบเครื่องบิน A (Concourse A Annex) และรับผู้โดยสารในประเทศ ชี้อาคาร 2 ใหม่จะทำให้มีปัญหาเครื่องบินเข้าออกหลุมจอด
วันนี้ (16 ต.ค.) สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA) ได้เปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับความเห็นในการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิในหัวข้อ “กะเทาะเปลือกสนามบินสุวรรณภูมิ” ซึ่ง 15 องค์กรวิชาชีพ และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นและรับฟังกรณีพิพาทขั้นตอนการดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 โดยมีนายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ตอบข้อซักถาม โดยใช้เวลาเกือบ 4 ชม.
ทั้งนี้ องค์กรวิชาชีพได้สลับกันอภิปราย โดยมีการเสนอความเห็นให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) นำประเด็นดังกล่าวพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญของสังคม ไม่ใช่แค่สมาคมวิชาชีพ หรือใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ปัญหา ซึ่งหลังจากปิดเวทีสาธารณะแล้วองค์กรวิชาชีพได้ประชุมร่วมกันต่อเพื่อหาข้อสรุปของความเห็น
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์ นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า สมาคมฯ เป็นคนกลางในการเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นต่างอย่างมีคุณภาพ และจะประเมินผลร่วมกับ 15 องค์กรวิชาชีพ และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง นำเสนอต่อไป ซึ่งข้อสรุปเบื้องต้นขององค์กรวิชาชีพเห็นว่า ทอท.ควรยุติการดำเนินการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในตำแหน่งใหม่ที่ไม่ตรงกับแผนแม่บทเดิม
นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ หรือ บทม. ซึ่งเป็นผู้อภิปรายคนแรก กล่าวว่า ทอท.ต้องตอบให้ได้ว่าการปรับแผนแม่บท และอ้างถึงองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ตลอดนั้นมีการรับรองจริงหรือไม่ ทอท.ต้องมีเอกสารสนับสนุน เพราะการปรับผังสนามบินไม่ใช่แค่เรื่องผิวเผิน ต้องศึกษาวิเคราะห์ ต้องมีที่มาที่ไป เพราะแผนแม่บทเดิมที่ออกแบบไว้เมื่อปี 2535-2537 เป็นแผนที่ได้รับการรับรองเป็น World Best Planner
อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของเทอร์มินัล 2 ใหม่ไม่เหมาะสม การรองรับผู้โดยสารที่ 30 ล้านคนต่อปีทำไม่ได้จริง ทอท.ต้องตอบว่าได้ทำตามที่ ICAO แนะให้พัฒนาหรือไม่ ซึ่งจากข้อมูลที่ตนได้รับจาก ICAO พบว่า ICAO เสนอให้วางตำแหน่งพื้นที่ให้บริการผู้โดยสารเป็นส่วนต่อขยายอาคารเทียบเครื่องบิน A (Concourse A Annex) และรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ เท่านี้ก็ไม่ตรงกับที่ ทอท.จะทำเป็นอาคาร 2 ที่รับทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว นอกจากนี้จะมีปัญหาทางวิ่ง (Taxi Way) ที่แคบ ทำให้รองรับผู้โดยสารไม่ได้ 30 ล้านคน แต่ต้องลงทุนถึง 4.2 หมื่นล้านบาท
ด้านนายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า ตอนนี้มีนโยบายใช้ 3 สนามบิน คือ ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภาด้วย ผู้โดยสารจะกระจาย การกระทำของ ทอท.มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทำไมต้องมีอาคาร 2 ในพื้นที่ใหม่ และมีบริการต่างประเทศ ทอท.ควรขยายอาคารหลังที่ 1 ด้านตะวันออก และด้านตะวันตกตามแผนแม่บท ใช้งบประมาณ 10,000 ล้านบาท รองรับได้ 30 ล้านคนต่อปี และเป็นการวางผังที่สอดคล้องกับการพัฒนาอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ที่กำลังก่อสร้างด้วย
สำหรับที่มาของอาคาร 2 ใหม่นี้ บอร์ด ทอท.มีมติ 21 ส.ค. 57 ให้ศึกษา เพราะ คสช.ให้หาแนวทางสร้างอาคารภายในประเทศ ต่อมา 18 ก.ย. 57 มีการเสนออาคาร 2 ใหม่ด้วยความรวดเร็ว ขณะที่มีการยกเลิกสัญญาที่ปรึกษา EPM ที่คัดค้านแนวคิดอีกด้วย และ ทอท.ได้ศึกษาอาคาร 2 เสร็จใน ก.พ. 58 ซึ่งถือว่ารวดเร็วมาก
ด้าน นายเอนก ธีระวิวัฒน์ชัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.กล่าวว่า การปรับปรุงแผนแม่บทเป็นการพัฒนาให้ดีขึ้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแผนแม่บท และการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ในบริเวณทิศเหนือปลายอาคารเทียบเครื่องบิน Concourse A เป็นไปตามคำแนะนำของ ICAO เมื่อรับฟังความเห็นแล้วเพื่อความสบายใจจะกลับไปคุยกับ ICAO ยืนยัน ทอท.ต้องการแก้ปัญหาในการให้บริการของสนามบิน
