ผู้จัดการรายวัน 360 - “มานา” มาแรง เร่งขยายตลาดสกินแคร์ปีหน้า โหมต่างประเทศ เจาะซีแอลเอ็มวี และจีน ตั้งเป้ารายได้ ตปท.สัดส่วน 40% จากปีนี้ 20% พร้อมเดินหน้ารุกตลาดไทย ทุ่มงบตลาดปีนี้ 100 ล้านบาท ดึง 2 ดาราดังพรีเซ็นเตอร์สร้างแบรนด์ ปีหน้าพร้อมแตกไลน์สู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เป้ารายได้ปีนี้ 1,000 ล้านบาท
นางสาวศิริรัตน์ กิจพ่อค้า ประธานกรรมการ บริษัท มานา เนเจอร์อินโนเวชั่น จำกัด เจ้าของแบรนด์ มานา “MANA” เปิดเผยว่า ตลาดรวมสกินแคร์ในประเทศไทยยังมีโอกาสขยายตัวอย่างมาก แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมของไทยจะยังไม่ขยายตัวมากนักก็ตาม แต่กลุ่มตลาดคนที่รักความสวยความงามหันมาดูแลใส่ใจสุขภาพตัวเองมีมากขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แม้ว่าจะเป็นตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรงก็ตาม ในตลาดผลิตภัณฑ์ความงามที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 57,000 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มตลาดในปีหน้า (2562) คาดว่าภาพรวมยังคงดีต่อเนื่อง จากปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อที่มากขึ้น
ส่วนในไทยก็มีแผนขยายธุรกิจเช่นกัน โดยปีหน้าจะมีการออกสินค้าใหม่สกินแคร์อีกไม่ต่ำกว่า 5 เอสเคยู จากขณะนี้มีแล้ว 7 เอสเคยู และจะขยายไลน์สินค้าไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยในปีหน้า ซึ่งสินค้าทั้งหมดจะเป็นการว่าจ้างโรงงานในไทยผลิตให้ แต่บริษัทฯ นำเข้าวัตถุดิบสำคัญคือ ข้าวสาเก จากญี่ปุ่นเข้ามาเป็นส่วนผสมในการผลิต ซึ่งทำให้สินค้าของบริษัทฯ แตกต่างจากคู่แข่งในช่องทางตลาดออนไลน์ด้วยกัน
สำหรับรูปแบบของช่องทางจำหน่ายคือ การตั้งตัวแทนเป็นรายบุคคล ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 40,000 รายที่เป็นแม่ค้าออนไลน์ของเรา เน้นขายช่องทางออนไลน์เท่านั้น ไม่มีขายตามช่องทางค้าปลีก และไม่ใช่ระบบขายตรง
“เราทำตลาดมาสองปี แต่ปีนี้เรารุกตลาดหนักมาก ใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท ทำทุกอย่าง ทั้งกิจกรรม การอบรม การใช้พรีเซ็นเตอร์ ล่าสุดปีนี้มีสองคน คือ “โป๊ป-ธนวรรธน์” เป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมกันแดดข้าวสาเก และอีกคนคือ “บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าแคปซูลเซรัมข้าวสาเก ซึ่งเป็นสินค้าใหม่ที่ออกวางตลาดในปีนี้ จากปีที่แล้วที่มี 5 เอสเคยู เช่น สบู่ข้าวสาเก มาสก์ข้าวสาเก ซีซีบอดี้เซรัมสาเกซากุระ และบอดี้เซรัมข้าวสาเก นอกจากนั้นยังได้มีการเผยแพร่เพลง แม่ค้าออนไลน์ ในช่องทางโซเชียลด้วย เพื่อเป็นการโปรโมตและสร้างแบรนด์ ซึ่งแต่งโดย “กอล์ฟ-ฟักกลิ้งฮีโร่” นางสาวศิริรัตน์กล่าว
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯ เตรียมที่จะออกสินค้าเพื่อเป็นการผลักดันยอดขายรวมด้วย โดยจะเน้นสินค้าประเภทสกินแคร์เช่นกัน ประมาณ 5 เอสเคยู ราคาสินค้าจะมีตั้งแต่ ต่ำสุดคือสบู่ ก้อนละ 250 บาท และสูงสุดคือ 390 บาท ทั้งนี้ ตั้งเป้ายอดขายรวมในปีนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทำได้แล้วประมาณ 700 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีที่แล้วที่ได้เพียง 300 ล้านบาทเท่านั้นเอง จากการขยายตัวแทนจำหน่าย การออกสินค้าใหม่ การทำตลาดเต็มที่
