สคช.ขานรับกระแสความต้องการบุคลากรด้านระบบราง เตรียมทำมาตรฐานอาชีพ ยกระดับบุคลากรด้านซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางรางประเมินความต้องการในปี 65 ถึงกว่า 7,000 คน
นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช. เปิดเผยว่า จากเป้าหมายของรัฐบาลที่เน้นพัฒนาสู่ประเทศไทย 4.0 ตามนโยบายยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ในการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนได้มุ่งเน้น "การพัฒนาที่มีคนเป็นศูนย์กลาง" ภายใต้การกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี สคช.ได้ร่วมมือกับภาคการศึกษาในการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ เพื่อเร่งรัดผลิตกำลังคนในสาขาที่มีความจำเป็นต่อการพัฒนาประเทศ โดย สคช.ได้เข้าร่วมในคณะอนุกรรมการพัฒนากำลังคนในสาขาวิชาชีพนำร่องเร่งด่วน 8 สาขาวิชาชีพ ได้แก่ ICT รถไฟความเร็วสูงและระบบราง ลอจิสติกส์และซัปพลายเชน ช่างอากาศยาน อุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์ อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี แมคคาทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหารแปรรูป
ในส่วนของสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงและระบบราง จากข้อมูลโครงการการก่อสร้างรถไฟใน 3 ระบบของประเทศ ซึ่งประกอบด้วยรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งมีความยาวรวมกันกว่า 5,000 กิโลเมตรในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า พบว่าอาชีพช่างซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางรางกลายเป็นเป้าหมายเริ่มแรก โดยคาดว่าโครงการรถไฟฟ้ามีความต้องการกำลังคนช่างซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางรางจนถึงปี 2565 เป็นจำนวน 7,280 คน
ขณะที่จากข้อมูลภาคการผลิตที่สามารถผลิตได้มีจำนวน 5,670 คน ทำให้เกิดช่องว่างของจำนวนกำลังคนที่ควรพัฒนาเพิ่มเป็นจำนวน 1,610 คน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาหลักสูตรระยะสั้นโดยความร่วมมือกับฝ่ายฝึกอบรมของภาคผู้ประกอบการรถไฟ และจากความร่วมมือดังกล่าว สคช. และ สอศ.ได้เร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย โดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโลจิสติกส์ (โครงสร้างพื้นฐาน) ได้วิเคราะห์และพัฒนาหลักสูตร ปวส. "ช่างซ่อมบำรุงระบบขนส่งทางราง" ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพฯ ของ สคช.
อีกทั้งปรับปรุงเนื้อหาให้มีความถูกต้อง ทันสมัย และมีประสิทธิภาพแล้วเสร็จ เชื่อมโยงมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพเข้ากับภาคการศึกษา ปัจจุบันได้นำมาตรฐานสู่การปรับหลักสูตร และจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะและหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งในอนาคตสถาบันการศึกษาหลายแห่งมีเป้าหมายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้สำเร็จการศึกษาระดับอาชีวศึกษามีสมรรถนะตรงตามความต้องการของผู้ประกอบการ และผลักดันให้ผู้สำเร็จการศึกษาได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ
"การพัฒนาระบบรางถือเป็นหนึ่งในนโยบายการขานรับยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคต ซึ่งการผลิตบุคลากรเพื่อรองรับนั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเร่งด่วน เนื่องจากปัจจุบันมีโครงการระบบรางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและจะแล้วเสร็จในอนาคตหลายโครงการ ทั้งรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หรือโครงการรถไฟทางคู่ 9 เส้นทางที่ผ่านความเห็นชองจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว" นายพิสิฐกล่าว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในระยะต่อไปคณะอนุกรรมการมาตรฐานอาชีพกลุ่มสาขาวิชาชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบรางของ สคช.จะได้นำนโยบายที่ได้รับจากรองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง มาขับเคลื่อนการพัฒนากำลังคนในอาชีพ เร่งให้การรับรององค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพให้ครอบคลุมทุกสาขาวิชาชีพ และส่งเสริมให้มีผู้เข้ารับการประเมินตามสมรรถนะบุคคลตามเป้าหมาย รวมถึงควบคุมกระบวนการประเมินสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล