“แฟชั่นไอส์แลนด์” ทุ่มพันล้านปรับโฉมใหญ่

ผู้จัดการรายวัน 360 - แฟชั่นไอส์แลนด์ต่อยอดพัฒนาโครงการใหม่ เติมเต็มพื้นที่รวม 140 ไร่ ยังเหลือพื้นที่อีก 40% นำร่องอัด 1,000 ล้านบาทปรับโฉมใหม่ครั้งใหญ่

นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล 21 อโศก, เทอร์มินอล 21 โคราช, เดอะ พรอมานาด และ ไลฟ์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ที่เหลือทั้งหมดของโครงการศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ซึ่งมีพื้นที่รวมทั้งหมดกว่า 140 ไร่ โดยที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการต่างๆ และใช้พื้นที่ไปแล้วประมาณ 60-70% เพื่อให้เป็นโครงการที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุด

จากนี้บริษัทฯ วางแผนที่จะลงทุนด้วยงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อทำการปรับปรุงศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ใหม่ครั้งใหญ่ เพื่อให้มีความทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการใหม่ๆ ที่เพิ่มชั้น สอดคล้องไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไปด้วย เพื่อให้เหมือนห้างสรรพสินค้าหลายห้างรวมอยู่ในห้างเดียวกัน

“ในพื้นที่ย่านรามอินทรามีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ สังคม จำนวนครัวเรือน มีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นจำนวนมาก ทั้งหมู่บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ ส่งผลให้มีจำนวนประชากรมากกว่า 3 ล้านคน จากกว่า 600,000 ครัวเรือน ในรัศมีรอบ 10 กิโลเมตร จากที่ตั้งของศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์” นายประเสริฐกล่าว

อีกทั้งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อด้วย ตลอดจนการมีระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ใกล้โครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่มีเส้นทางวิ่งผ่านหน้าโครงการพอดี ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 2-3 ปีจะแล้วเสร็จ ยิ่งส่งผลให้พื้นที่ย่านนี้มีศักยภาพมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

ก่อนหน้านี้ก็ได้ทำการปรับพื้นที่ใหม่บางส่วน โดยได้ย้ายโฮมโปร จากเดิมที่มีอยู่บริเวณชั้น 1 และ 2 ให้ออกมาเปิดนอกศูนย์การค้า มีพื้นที่ขนาด 14,000 ตร.ม. โดยได้ทำการออกแบบให้ตัวอาคารของโฮมโปรมีทางเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าโดยตรงเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่พื้นที่โฮมโปรเดิมนั้นบริษัทฯ ได้นำมาปรับเป็นที่จอดรถเพิ่มอีก 2,000 คัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการพื้นที่ใหม่นี้ประมาณปี 2562

นอกจากนั้น ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ยังได้เปิดบริการโซนนิวไอส์แลนด์ ที่ประกอบด้วย ศูนย์อาหาร สวนสนุก โรงหนังใหม่ หลังจากปี 2560 ได้ใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อปรับปรุงให้กลายเป็นศูนย์รวมเอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ ไปแล้ว

สำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2561 นี้บริษัทฯ มีงบการตลาดโดยรวม 40-50 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการจัดกิจกรรม โครงการต่างๆ ตลอดสามเดือนสุดท้ายนี้

“จากการปรับปรุงใหม่ต่อเนื่อง รวมทั้งการบริการใหม่ๆ เข้ามาเสริม ส่งผลให้ปี 2561 นี้มีจำนวนลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มจากวันธรรมดาที่มี 60,000-70,000 คน และวันเสาร์ อาทิตย์ 100,000 คน อีก 7% และความถี่ที่เข้ามาใช้บริการก็เพิ่มจากเฉลี่ยคนละ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มเป็น 2.5 ครั้งต่อสัปดาห์” นายประเสริฐกล่าว