“กรมทางหลวง” ลุ้น ครม.25 ก.ย.นี้ ไฟเขียวขยายกรอบค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ “บางใหญ่-กาญจนบุรี” อีก 1.42 หมื่นล้าน “ธานินทร์” สั่งเตรียมพร้อมเร่งจ่ายเงินใน 1 เดือน เคลียร์ทางเข้าพื้นที่เร่งตอกเข็มเสร็จในต้นปี 64 เผยปมค่าเวนคืนทำภาพรวมล่าช้ากว่าแผนกว่า 40% หรือ 1 ปีแล้ว
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กม.จำนวน 25 ตอน วงเงินลงทุน 55,620 ล้านบาท ว่าขณะนี้กรมฯ ยังไม่ได้รับงบประมาณในส่วนของที่ขอขยายกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติมอีก 14,217 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ และตามแผนงาน กรมฯ จะเร่งจ่ายค่าเวนคืนให้เสร็จในเดือน ต.ค. 2561 เพื่อให้ผู้รับเหมาได้เร่งเข้าพื้นที่ก่อสร้างต่อไป
ทั้งนี้ หลังจากกรอบค่าเวนคืนที่ดินเดิมของมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี อยู่ที่ 5,420 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการประเมินตามราคาปัจจุบัน พบว่าค่าเวนคืนเพิ่มเป็น 19,637 ล้านบาท หรือต้องขอรับงบประมาณเพิ่มเติมอีก 14,217 ล้านบาท โดยชาวบ้านรับทราบราคาแล้ว และกระทรวงคมนาคมได้ตรวจสอบแล้วตามราคาประเมินที่ดินจริง
สำหรับงบประมาณก่อสร้าง ที่ได้รับจัดสรรในปี 2561 จำนวน 11,000 ล้านบาท ที่ผ่านมากรมฯได้ขอเปลี่ยนแปลงงบก่อสร้างจำนวน 9,217 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายค่าเวนคืนบางส่วนก่อน และในปี 2562 จะมีงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายค่าที่ดินให้ครบ 14,217 ล้านบาท ส่วนค่าก่อสร้างงานโยธาที่ต้องจ่ายให้ผู้รับเหมา กรมฯจะตั้งงบประมาณปี 2563 ในจำนวนที่โยกมาจ่ายค่าเวนคืน เพื่อกลับไปจ่ายค่าก่อสร้างซึ่งพอดีกับการเบิกจ่ายค่าก่อสร้างพอ
“ได้ตั้งขั้นตอนการทำงาน เพื่อจ่ายค่าเวนคืนให้เสร็จภายใน 1 เดือนหลัง ครม.อนุมัติ โดยตอนนี้ให้เตรียมเรื่องเอกสารไว้รอ ถือว่าตอนนี้พร้อม หลังจ่ายเวนคืนหมด ผู้รับเหมาจะทยอยเข้าพื้นที่ได้หมดทุกสัญญา ซึ่งขณะนี้งานโยธาของสายนี้ในภาพรวมคืบหน้า11-12% เท่านั้น ล่าช้ากว่าแผน 40% ซึ่งภาพรวมล่าช้าประมาณ 1 ปี อย่างไรก็ตาม นโยบายของกรมฯ จะเร่งรัดผู้รับจ้างทำงานเร็ว ซึ่งงานสายบางใหญ่ผิวทางลาดยาง ไม่ใช่คอนกรีต สามารถก่อสร้างได้เร็วผู้รับเหมาได้เข้าพื้นที่ไปบางส่วนที่พอจะเจรจากับชาวบ้านได้และเตรียมวัสดุอุปกรณ์รอในพื้นที่แล้ว ประกอบกับจะจะเร่งก่อสร้างในช่วง พ.ย. 61 - เม.ย. 62 ซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง คาดว่าจะล่าช้าจากแผนเดิมไม่เกิน 8 เดือน งานโยธาทั้งหมดจะเสร็จในต้นปี 2564”
สำหรับงานร่วมลงทุน (RFP) การให้เอกชนร่วมลงทุนในการดำเนินงานและบำรุงรักษา (Operation and Maintenance: O&M)โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงิน 33,258 ล้านบาท และทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 (สายบางใหญ่-กาญจนบุรี) วงเงิน 27,828 ล้านบาทนั้น นายธานินทร์กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 อยู่ระหว่างพิจารณาร่างทีโออาร์ ซึ่งตามแผนงานระบบ O&M จะใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปีครึ่ง ซึ่งมีข้อเสนอจากการประชาพิจารณ์ขอเพิ่มเป็น 3 ปี ซึ่งต้องรอ กก.มาตรา 35 พิจารณา
ทั้งนี้ หากการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จก่อนงานระบบ O&M ในช่วงรองาน O&M กรมฯ มีแนวทางที่จะเปิดให้รถใช้สัญจรอย่างไม่เป็นทางการไปก่อน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่จะอนุญาตเฉพาะรถ 4-6 ล้อเท่านั้น รถบรรทุกห้ามวิ่ง เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อถนนและค่าซ่อมบำรุง ที่ผู้รับสัมปทานงาน O&M จะต้องเข้ามารับผิดชอบ