xs
xsm
sm
md
lg

“แบรนด์ซันโทรี่” รุกตลาดออนไลน์จีน ผนึก “ทีมอลล์” ดันรังนก-ซุปไก่หัวหอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ ‘ทีมอลล์ โกลบอล’ แพลตฟอร์มการค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน (ภายใต้การดำเนินงานของอาลีบาบา) เดินหน้าเต็มสูบบุกตลาดศักยภาพสูงอย่างจีน จัดเต็มทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ดันยอดขายทะลุตามเป้า โดยมีแบรนด์รังนกเป็นสินค้าหัวหอก

ความร่วมมือกับทีมอลล์ โกลบอล ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิต “อาหารแห่งอนาคต” (Hub of Food for the Future) เพื่อส่งออกทั่วโลกภายใน 5 ปี นอกจากนี้ แบรนด์ ซันโทรี่ฯ ยังเตรียมพัฒนาอุตสาหกรรมและคุณภาพวัถตุดิบรวมถึงแรงงานไทยให้ก้าวหน้าทัดเทียมนานาประเทศ

มร.เก็น ไซโตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า “แบรนด์ ซันโทรี่ได้ทดลองจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ผ่านทางทีมอลล์ โกลบอล เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีแบรนด์รังนกเป็นผลิตภัณฑ์กลยุทธ์ แบรนด์รังนกได้รับการตอบรับเป็นที่น่าพอใจมากจากผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากชาวจีนเชื่อว่ารังนกเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ อีกทั้งรังนกคุณภาพสูงบรรจุขวดตราแบรนด์ของเรา ยังรสชาติอร่อย รับประทานง่าย ซื้อหาและจัดเก็บสะดวก จึงมียอดขายที่เติบโต 20% อย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือน ส่งผลให้แบรนด์รังนกเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีที่สุด (Best Selling Products) จากประเทศไทยสำหรับทีมอลล์”

“เราคาดว่ายอดขายของแบรนด์รังนกจะโตขึ้นเป็น 2 เท่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากมีเทศกาลพิเศษของชาวจีนที่เรียกว่า ‘วันคนโสด’ (Singles’ Day) ซึ่งอาลีบาบาถือเป็นดีเดย์สำหรับมหกรรม ช้อปปิ้งสินค้าราคาพิเศษยิ่งใหญ่ที่ประจำปี การผนึกกำลังกันอย่างเป็นทางการของแบรนด์ ซันโทรี่ฯ และทีมอลล์ โกลบอล จะทำให้ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพต่างๆ ของเราได้รับการโปรโมตผ่านทุกช่องทางขายออนไลน์และออฟไลน์ โดยมี Flagship Store เป็นช่องทางหลักที่ช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้กับผลิตภัณฑ์แบรนด์ในประเทศจีน” มร.ไซโตะกล่าว

มร.ไซโตะ กล่าวต่อว่า “แบรนด์ ซันโทรี่ มีวิสัยทัศน์สำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกไปทั่วโลก ประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่อันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เราจึงวางแผนพัฒนาองค์กรของเราในเมืองไทยให้ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอาหารแห่งอนาคตด้วยงบลงทุนหลายพันล้านบาท ทั้งเพื่อการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ พัฒนาไลน์การผลิต และระบบซัพพลายเชนที่ทันสมัย ทำให้ในปัจจุบันประเทศไทยผลิตได้มากถึง 350 ล้านขวดต่อปี

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาเราได้ย้ายสำนักงานระดับภูมิภาคจากสิงคโปร์มายังประเทศไทย เพื่อรองรับการดำเนินการสู่เป้าหมายที่วางไว้ และเพื่อให้สำนักงานระดับภูมิภาคในเมืองไทยเป็นศูนย์กลางในการวางกลยุทธ์ การส่งออกและกระจายสินค้าไปยังตลาดในภูมิภาคต่างๆ ของโลกไม่ว่าจะเป็นยุโรป แอฟริกา หรือละตินอเมริกา เพิ่มเติมจาก 19 ประเทศที่เราส่งออกอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงเชื่อมโยงทางธุรกิจทั้งสำนักงานใหญ่และสาขาหลักต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย

“ผลการดำเนินงานหลังย้ายสำนักงานจากสิงคโปร์มายังประเทศไทยเมื่อปีที่แล้วนั้นเป็นที่น่าพอใจ เราจึงเร่งสร้างทีมงานที่แข็งแกร่งทั้งฝั่งของทีมกลยุทธ์ และทีมการตลาด เพื่อต่อยอดจุดแข็งด้านการผลิต นอกจากนี้ การขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารเสริมเพื่อสุขภาพยังจะก่อให้เกิดความร่วมมือระหว่าง แบรนด์ซันโทรี่ และผู้ประกอบการอื่นๆ ภายในประเทศ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดจนคุณภาพแรงงานไทยและวัตถุดิบจากประเทศไทยให้ได้มาตรฐานสากลอีกด้วย” มร.ไซโตะกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น