ผู้จัดการรายวัน360 - นู สกิน ประเทศไทย ประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัท แอลเอฟ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (LF) ส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจด้านโลจิสติกส์ของ นู สกิน และรองรับการเติบโตของยอดขายออนไลน์ จะมีสัดส่วนทะลุ 60% ปีนี้
นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้มีการบุกตลาดด้วยกลยุทธ์ 3P (Products-Platforms- Programs) ตามนโยบายของบริษัทแม่ รวมถึงได้มีการจัดกิจกรรมทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้มีอัตราการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ที่มีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 50%ของยอดขายรวมเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเติบโตมาจากการลงทุนในแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เรียกว่า มีคอมเมิร์ซ ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยแพลตฟอร์มนี้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ทำธุรกิจ นู สกิน สามารถขยายฐานองค์กรได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องของการเตรียมความพร้อมของงานบริการเพื่อความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะบริการด้านโลจิสติกส์ ดังนั้น นู สกิน จึงมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องการขยายการลงทุนด้านระบบโลจิสติกส์ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การขนส่ง รวมถึงการกระจายสินค้า เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตให้ครอบคลุมถึงผู้บริโภคทั่วประเทศ และให้ผู้บริโภคสามารถมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการที่จะยังคงมาตรฐานทั้งความรวดเร็ว บริการที่เป็นเลิศ แม่นยำ และยังมีระบบการจัดการสินค้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตั้งแต่ต้นทางไปถึงปลายทาง สู่มือผู้บริโภค
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ประกาศความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับ บริษัท แอลเอฟ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (LF Logistics) หนึ่งในบริษัทจัดการคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีศักยภาพด้าน
โลจิสติกส์อย่างครบวงจร ในการขยายคลังจัดเก็บสินค้าของ นู สกิน ควบคู่ไปกับการมีระบบการจัดการระบบไหลเวียนสินค้าด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าโดยเฉพาะการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น คลังสินค้าใหม่ต้องพร้อมรองรับสินค้าที่จะนำมาสต็อกตลอดจนตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการให้บริการจัดส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าของ นู สกิน อีกด้วย
“ นู สกิน ประเทศไทย ถือเป็นประเทศแรกที่นำร่องในการจับมือกับบริษัทจัดการคลังสินค้า แนวหน้าหลังจากที่มีการบุกตลาดด้วยกลยุทธ์ 3P รวมถึงการบุกตลาดออนไลน์ โดยในปีนี้เราได้พันธมิตรมืออาชีพอย่าง แอลเอฟ โลจิสติกส์ เข้ามาช่วยดูแลและจัดการเรื่องระบบการขนส่งและเป็นคลังสินค้าให้กับบริษัท ซึ่งแผนการขยายคลังสินค้าของเรา ถือเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์รองรับแพลตฟอร์ม ของ นู สกิน ที่จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้คาดว่าจากการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านคลังสินค้าของ นู สกิน ในการรองรับยอดสั่งซื้อจากออนไลน์ได้มากขึ้นกว่า 300% ด้วยระบบการบริหารจัดการที่ดีและการใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยรวมไปถึงความเป็นผู้เชี่ยวชาญอันดับต้นๆ ของ แอลเอฟ ตลอดจนระบบการจัดการสินค้าภายในของ นู สกิน ที่สามารถเชื่อมโยง เข้าหากันได้เป็นอย่างดี และทำให้การจัดการสินค้าเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะมียอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตโดยมีสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 60% ภายในสิ้นปีนี้ นับว่าเป็นการเตรียมความพร้อมที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ 3P อย่างแท้จริงทั้ง สินค้า(PRODUCTS) โปรแกรม (PROGRAMS) และแพลตฟอร์ม (PLATFORMS)” นางวิภาดา กล่าว
นางสาวจรรยา ธนาอธิพร รองประธานกรรมการบริหารประเทศไทย บริษัท แอลเอฟ โลจิสติกส์ จำกัด (LF Logistics) เปิดเผยว่า แอล เอฟ โลจิสติกส์ เป็นบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการด้านการจัดการศูนย์กระจายสินค้าแบบครบวงจร (DC) Management ให้กับแบรนด์ชั้นนำกว่า 400 แบรนด์ ทั่วโลก ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทดำเนินการด้าน Distribution Center ในกว่า 150 แห่งทั่วโลก มีเนื้อที่คลังสินค้ามากกว่า 20 ล้าน ตารางฟุต ทั้งในประเทศจีน ไต้หวัน ฮ่องกง ปากีสถาน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยคลังสินค้าแต่ละแห่งจะได้รับการปรับแต่งเพื่อให้บริการผลิตภัณฑ์ตามความต้องการทางธุรกิจของลูกค้า
สำหรับประเทศไทย แอลเอฟ โลจิสติกส์ มีพื้นที่รองรับการให้บริการกว่า 2,500,000 ตารางฟุต แบ่งการให้บริการธุรกิจออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ ด้านคลังสินค้า ขนส่งในประเทศ การบรรจุหีบห่อเพื่อส่งเสริมการขาย E-Commerce และการนำเข้าส่งออก และเดินพิธีการศุลกากร ในส่วนของ นู สกิน นั้น ได้มอบหมายให้ แอลเอฟ โลจิสติกส์ เข้ามาบริหารการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ในประเทศ ซึ่งรวมถึงการจัดเก็บสินค้า การกระจายสินค้าไปยังศูนย์บริการของ นู สกิน ทั่วประเทศ ดูแลเรื่องบรรจุและแพ็คสินค้าเพื่อเตรียมจัดส่ง นอกจากนั้น ยังครอบคลุมถึงการควบคุมตรวจสอบคุณภาพสินค้าเพื่อให้ได้มาตรฐานตามนโยบายควบคุมที่เคร่งครัดของ บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส สหรัฐอเมริกา
“ด้วยศักยภาพของบริษัทแอลเอฟ โลจิสติกส์ เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีส่วนสำคัญในการเป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตให้กับภาคธุรกิจการค้าและเศรษฐกิจของไทย ซึ่งการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ นู สกิน ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจแล้ว แอลเอฟ โลจิสติกส์ ยังได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพด้านการจัดเก็บและบริหารคลังสินค้าและระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ถือเป็นการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทคู่ค้า อย่าง นู สกิน ในการพัฒนา กลไกด้านโลจิสติกส์ และนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจร่วมกันอีกด้วย” นางสาวจรรยา กล่าวสรุป