ผู้จัดการรายวัน 360 - รังสิตพลาซ่าปลุกปั้นฟิวเจอร์ซิตี้ แผนยาวอีก 10 ปี คาดต้องทุ่มงบอีก 80,000 ล้านบาท เล็งธุรกิจเอาต์เลตมอลล์ ต่อยอดศูนย์สุขภาพเวลเนส ล่าสุดดึง 2 เชนผุด 2 โรงแรม ชูนโยบายเปิดกว้าง ทั้งร่วมทุน ให้เช่าที่ดิน ลงทุนเอง
นางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้จากนี้ 10 ปีในการพัฒนาและเติมเต็มโครงการฟิวเจอร์ ซิตี้ ซึ่งยังมีพื้นที่เหลืออีกประมาณ 300 กว่าไร่ ด้วยงบประมาณรวมที่วางไว้กว่า 80,000 ล้านบาท จากที่ได้พัฒนาไปแล้วกว่า 300 ไร่ ด้วยงบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาทในช่วงเกือบ 20 ปีที่ผ่านมาที่เปิดบริการศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต โดยเปิดกว้างในทุกรูปแบบทั้งการลงทุนเอง การให้เช่าพื้นที่ หรือการร่วมลงทุนในแต่ละโครงการ
“พื้นที่ย่านรังสิตนี้มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีการลงทุนระบบสาธารณูปโภคจากรัฐบาลจำนวนมาก มีรถไฟฟ้าสายสีแดงอยู่ระหว่างก่อสร้าง สนามบินดอนเมืองมีการขยายเทอร์มินัลเพิ่ม รวมถึงการเติบโตของเรื่องที่อยู่อาศัยและอุตสาหกรรมในย่านนี้ ส่งผลให้พื้นที่ย่านนี้มีความเจริญและมีประชากรมากขึ้น บริษัทฯ จึงต้องการสร้างฟิวเจอร์พาร์ครังสิตหรือฟิวเจอร์ซิตี้ ให้เป็นศูนย์รวมการใช้ชีวิตอย่างมีระดับของกรุงเทพฯ ตอนเหนือที่มีทุกอย่างพร้อม เช่น ศูนย์การค้า ศูนย์เฟอร์นิเจอร์และสินค้าตกแต่งบ้าน ศูนย์ออกกำลังกายขนาดใหญ่ ซูเปอร์รีจินัลมอลล์ โรงพยาบาลเปาโล โรงแรมและสปอร์ตคลับ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวด้วยงบรวมไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท” นางรัตนากล่าว
ทั้งนี้ โครงการใหม่ที่อยู่ในแผนพัฒนาจากนี้คือ พื้นที่โซนค้าปลีก ซึ่งสนใจธุรกิจเอาต์เลตมอลล์ ที่ผ่านมามีการเจรจากันบ้างแต่ยังไม่เป็นทางการกับกลุ่มที่สนใจหลายราย ซึ่งทางบริษัทฯ สนใจผู้ประกอบการเอาต์เลตมอลล์จากยุโรปเป็นหลัก แต่ธุรกิจนี้อาจจะต้องใช้เวลา เพราะผู้ประกอบการจะต้องมีความพร้อมรวมทั้งระบบกฎหมายต่างๆ จะต้องเอื้ออำนวยให้สามารถลงทุนได้ด้วย จึงยังไม่ได้เป็นโครงการที่รีบร้อนมากนัก
นอกจากนั้นยังมีการสร้างโรงแรม ซึ่งเป็นการเปิดให้ผู้ประกอบการเข้ามาเช่าพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีแล้ว 2 ราย คือ โรงแรมระดับ 4 ดาว พื้นที่ 9 ไร่ เป็นอาคารสูง 11 ชั้น จำนวน 227 ห้อง มีห้องประชุมสัมมนา สระว่ายน้ำ ลานจอดรถรวม 151 คัน และโรงแรมระดับ 2 ดาว พื้นที่ 1 ไร่ อาคารสูง 7 ชั้น จำนวน 79 ห้องพัก ลานจอดรถ 35 คัน ทั้ง 2 โครงการนี้เจ้าของโรงแรมลงทุนรวม 300 กว่าล้านบาท คาดว่าแล้วเสร็จเปิดบริการไตรมาส 4 ปี2563
ขณะที่โซนสปอร์ตฮับ พื้นที่รวม 20 กว่าไร่ อยู่ระหว่างการเตรียมขยายพื้นที่สนามฟุตบอลอีก 2 สนาม รวมเป็น 6 สนาม และเพิ่มสนามแบดมินตันอีก 2 สนาม รวมเป็น 4 สนาม และเตรียมแผนการสร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ศูนย์สุขภาพหรือเวลเนสเฮลท์เซ็นเตอร์ โดยส่วนที่เปิดบริการในปี 2561 นี้ เช่น สกี ไอซ์สเกต ฟิตเนส โยคะ โรงเรียนฝึกสอนมวยไทย โรงเรียนเทควันโด แทรมโปลีน และร้านสปอร์ตรีเทลชั้นนำ
ขณะที่ในส่วนของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต มีการปรับพื้นที่และเพิ่มการบริการใหม่เพื่อรองรับลูกค้าและไลฟ์สไตล์กของผู้คนในยุคใหม่นี้ด้วย โดยจะมีการเพิ่มพื้นที่เลานจ์สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 200 ตารางเมตร ซึ่งปัจจุบันมีผู้สูงอายุเข้าศูนย์ฯ ประมาณ 10% ของทั้งหมด
นางรัตนากล่าวต่อว่า ปัจจุบันมีลูกค้าเดินเข้าศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตกับโซนสเปลล์กว่า 160,000 คนในช่วงวันธรรมดา และปริมาณ 200,000 คนในวันเสาร์-อาทิตย์ เติบโต 20% หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงศูนย์ฯ และเปิดโซนสเปลล์เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนลูกค้าจะเป็นกลุ่มคนทำงาน 40% กลุ่มนักศึกษาและวัยรุ่น 30% กลุ่มทั่วไป 20% และกลุ่มผู้สูงวัย 10% ขณะที่แบ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10% ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจีนกับเวียดนาม ส่วนลูกค้าต่างจังหวัดมีประมาณ 3% ทั้งนี้ ตั้งเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเป็น 10% และลูกค้าต่างจังหวัดเป็น 10%
ทั้งนี้ กลุ่มลูกคาระดับเอมีเพิ่มเป็น 10% โดยมีระดับรายได้ประมาณ 85,000 บาทต่อเดือนต่อครัวเรือน ลูกค้าเข้ามาเที่ยวศูนย์ฯ เฉลี่ย 5 ครั้งต่อเดือน และกว่า 80% ถือเป็นลูกค้าเก่าที่มาเที่ยวที่ศูนย์ฯ เป็นประจำไม่ต่ำกว่า 5 ปีขึ้นไป มีการใช้จ่ายประมาณ 2,000-2,200 บาทต่อครั้ง ขณะที่ลูกค้าจากต่างจังหวัดใกล้เคียงมีการใช้จายเฉลี่ย 4,000-5,000 บาทต่อครั้ง
สำหรับผลประกอบการช่วง 8 เดือนแรกปี 2561 นี้ บริษัทฯ มีรายได้รวม 791 ล้านบาท เติบโต 3% ส่วนทั้งปีคาดว่าจะมีรายได้รวม 1,000 ล้านบาท เติบโต 3-5% ซึ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่เหลือนี้จะใช้งบตลาดรวม 100 ล้านบาท จากงบตลาดทั้งปีที่ตั้งไว้ 350 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 250 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย อีเวนต์ต่างๆ
ส่วนการบริการต่างๆ ที่จะดำเนินการในช่วงนี้ คือ การร่วมมือกับทีโอทีในการปรับปรุงไวไฟ เพิ่มเป็น 50 เมก การเปิดบริการไอบ็อกซ์ร่วมกับไปรษณีย์ไทย การร่วมมือกับสถาบันการเงินในการเปิดให้บริการแคชเลสกับร้านค้าต่างๆ ในศูนย์ฯ ให้ได้ 60% จากจำนวนกว่า 1,000 ร้านค้า ซึ้งขณะนี้ทำไปแล้ว 40%