ผู้จัดการรายวัน 360 - “เอซิคส์” โหมหนักช่องทางจำหน่ายในช่วงปักฐานตลาดไทย ลุยเปิดสาขาทุกแบรนด์เต็มที่ปีนี้ พร้อมรุกหนักช่องทางออนไลน์ด้วย ปรับกลยุทธ์แบรนด์เอซิคส์ไทเกอร์ใหม่
นายวโรดม พรานบุญปลูก ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอซิคส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรองเท้าและผลิตภัณฑ์แบรนด์เอซิคส์, โอนิซึกะ ไทเกอร์ และ เอซิคส์ ไทเกอร์ จากญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ในช่วงปี 2561 นี้และปีหน้าเป็นช่วงของการลงทุนและสร้างฐานเป็นหลัก โดยเฉพาะทางด้านช่องทางจำหนายของทั้ง 3 แบรนด์ในไทยอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เอซิคส์ญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดเองเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ในการรุกตลาดรองเท้าในไทยที่มีมูลค่าสูงไม่น้อยกว่า 20,000 ล้านบาท และมีการแข่งขันที่รุนแรงด้วย
ปี 2561 นี้วางแผนเปิดสาขาหรือแบรนด์ชอปทั้ง 3 แบรนด์ต่อเนื่อง คือ 1. แบรนด์เอซิคส์ เปิดอีก 5 สาขา จากปัจจุบันมีแล้ว 6 สาขา ที่เปิดแล้วเช่นที่เซ็นทรัลเวิลด์ เมืองทองธานี เตรียมเปิดอีกที่ไอคอนสยาม เซ็นทรัลเชียงใหม่ และเทอร์มินอล 21 ที่พัทยา, 2. แบรนด์โอนิซึกะ ไทเกอร์ ปัจจุบันมี 10 สาขา ในปีนี้มีแผนจะเปิดอีก 6 สาขา ที่เปิดแล้วเช่นที่ เซ็นทรัลเชียงใหม่ เซ็นทรัลบางนา สยามเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ เตรียมจะเปิดอีกเช่นที่ไอคอนสยาม ภูเก็ตและพัทยา เมกาบางนา ส่วนแบรนด์เอซิคส์ ไทเกอร์ ยังไม่มีแผนเปิดสโตร์
นอกจากนั้น เอซิคส์มีแผนที่จะบุกตลาดด้วยช่องทางออนไลน์ด้วย โดยได้มีการเปิดออฟฟิศเชียลเว็บไซต์ และออฟฟิศเชียลเพจแล้วทั้ง 3 แบรนด์
อย่างไรก็ตาม นายวโรดมกล่าวด้วยว่า แบรนด์เอซิคส์ ไทเกอร์ อยู่ระหว่างปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันกับบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นดำเนินการอยู่ โดยจะไม่เปิดร้านของเอซิคส์ ไทเกอร์ แต่จะนำแบรนด์นี้เข้ามาวางจำหน่ายในร้านเอซิคส์ควบคู่กันไปด้วย เป็นรองเท้าที่เจาะกลุ่มอายุประมาณ 18-25 ปีซึ่งอายุต่ำกว่า กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เอซิคส์ โดยเริ่มต้นที่สาขาไอคอนสยาม
“ตลาดในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่และสำคัญแห่งหนึ่งของเอซิคส์ในภูมิภาคนี้ เพราะเป็นตลาดที่เติบโตเร็วและมีศักยภาพในระยะยาว ซึ่งสังเกตได้จากการที่เอซิคส์ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนเองเลย ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่บริษัทแม่มาลงทุนเอง เช่นที่สิงคโปร์เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ส่วนไทยประมาณ 2 ปี และล่าสุดคือที่มาเลเซียประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา นอกนั้นจะเป็นลักษณะของการแต่งตั้งดิสทริบิวเตอร์ทั้งหมด” นายวโรดมกล่าว
“กระแสรักสุขภาพและการวิ่งในไทยมาแรงมาก ประเมินกันว่าแต่ละปีจะมีการจัดวิ่งมาราธอนมากกว่า 500 อีเวนต์ ส่วนกีฬาที่มาแรงก็คือ แบดมินตัน ส่งผลให้รองเท้ากีฬา รองเท้าวิ่ง และรองเท้าแบดมินตัน รวมถึงกีฬาอย่างอื่นเติบโตรวมได้ด้วย ซึ่งบริษัทฯ เองก็มีแผนที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอทั้งในแง่ของรองเท้ารุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มเดิม กับการแตกไลน์รองเท้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากทั้ง 3 แบรนด์ที่มีอยู่เพื่อรองรับตลาดที่เปลี่ยนไปด้วย โดยเอซิคส์เป็นแบรนด์ที่เจาะกลุ่มผู้ชายเล่นกีฬา เป็นรองเท้าแบบเพอร์ฟอร์แมนซ์ ส่วนโอนิซึกะ ไทเกอร์จะเป็นรองเท้าแฟชั่น เราจะทำตลาดรองเท้าเอซิคส์วอล์กกิ้งเป็นรองเท้าทำงาน จะเปิดเคาน์เตอร์แห่งแรกที่ไอคอนสยาม”
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวรองเท้ารุ่นใหม่ของเอซิคส์ คือ รองเท้า GEL-KAYANO 25 ที่มีการใช้วัสดุโฟมรุ่นใหม่อย่าง FLYTEFOAM™LYTE ที่เสริมประสิทธิภาพการดูดซับแรงกระแทก นับเป็นรองเท้ารุ่นแรกที่ผลิตจากวัสดุเส้นใยนาโนเซลลูโลส หรือ CELLULOSE NANOFIBER (CNF)
นายวโรดมกล่าวว่า จากการรุกตลาด บริษัทฯ มั่นใจว่าในปี 2561 นี้ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯ จะเติบโต 20% ซึ่งครึ่งปีแรกเติบโตตามเป้าหมาย และล่าสุดบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้เซ็นสัญญากับทาง โนวัค โจโควิค นักเทนนิสระดับโลก ให้เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ เพื่อให้ใส่รองเท้าเทนนิสของเอซิคส์ในการแข่งขัน ซึ่งจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในตลาดโลกโดยเฉพาะยุโรปมากยิ่งขึ้น